มหาวิทยาลัยรังสิต มอบรางวัลบัณฑิตเหรียญทองสังคมธรรมาธิปไตยแก่บัณฑิตที่ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เป็นผู้ที่มีความดี ความงาม มีเป้าหมายเพื่อชีวิตที่ดีงาม พร้อมเป็นพลเมืองที่ดีตามแนวทางแห่งสังคมธรรมาธิปไตย ได้แก่ นายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว และ นางสาวนริศรา เพียรรักษ์ โดยได้มอบรางวัลดังกล่าวในพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2561

รศ.ดร.กฤษณ์ ทองเลิศ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานอกจากมหาวิทยาลัยรังสิตจะพัฒนาบัณฑิตให้มีความพร้อมด้านวิชาการแล้ว ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องธรรมาธิปไตย จึงมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปลูกฝังและก่อตั้งสถาบันหลักทางด้านจริยธรรมในสังคมให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่แนวความคิดและค่านิยมที่ส่งเสริมต่อการพัฒนาประเทศ ตามปณิธานของดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิตว่า สังคมธรรมาธิปไตยของมหาวิทยาลัยรังสิต นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญจากสถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ “สร้างคน” มาเป็น “สร้างคนต้นแบบ” ที่ต้องมีทั้งความสำเร็จและความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งนอกจากบัณฑิตจะมีความตั้งใจใฝ่รู้แล้ว ยังสนับสนุนให้บัณฑิตมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นการสร้างบัณฑิตให้เป็นคนดีและคนเก่งไปพร้อมกัน ซึ่งรางวัลดังกล่าวนี้คณะกรรมการมหาวิทยาลัยได้มีการคัดเลือกบัณฑิตผู้ที่เหมาะสมและมอบรางวัลนี้ในพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2561 โดยบัณฑิตทั้ง 2 คนที่ได้รับการคัดเลือก นอกจากจะมีผลการเรียนดีแล้ว ยังทำกิจกรรมเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสังคมอีกด้วย

นายวุฒิรักษ์ แพงตาแก้ว บัณฑิตวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สำหรับตนเองแล้วคิดว่าไม่มีสิ่งใดที่ทำให้คนเราเติบโตได้ดีเท่าประสบการณ์ ประสบการณ์ที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงชีวิตของการเป็นนักศึกษาหรือวัยหนุ่มสาวเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เราต้องพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หลากหลาย เพราะเกรดในห้องเรียนเป็นเพียงตัวบ่งบอกความรับผิดชอบของตัวเราต่อห้องเรียน แต่ไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกความรับผิดชอบที่ตัวเรามีต่อสังคม สำหรับตนเองถือว่าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกห้องเรียนอย่างคุ้มค่า เพราะมีโอกาสได้ลงพื้นที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมหลากหลาย อาทิ ร่วมเรียกร้องกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานรัฐ หรือช่วยพี่น้องในการได้มาซึ่งสัญชาติที่ควรจะเป็นของพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว แต่กับด้วยกระบวนการหรือกลไกทางกฎหมายหรืออะไรไม่ทราบได้ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนบางส่วนยังไม่มีสัญชาติไทยและยังอยู่อย่างยากลำบาก แบบนี้คือการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและสังคมในเชิงสิทธิมนุษยชน ร่วมช่วยพี่น้องประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งในภาคอีสานและภาคใต้ โดยมีการสำรวจพื้นที่ก่อนว่าในแต่ละพื้นที่ประชาชนมีความต้องการอะไร ร่วมลงพื้นที่กับคณะนิติศาสตร์ ในนามคลินิกช่วยเหลือประชาชนทางสังคมและกฎหมาย ม.รังสิต ในการไปช่วยพี่น้องประชาชนคนไทยพลัดถิ่นพิสูจน์สัญชาติและดำเนินการคืนสัญชาติไทยให้กับพี่น้องประชาชนเหล่านั้น นอกจากนั้น ยังมีการลงพื้นที่เพื่อศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น ในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ตำบลหม่องกั๊ว อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งไฟฟ้าเข้าไม่ถึงและไม่มีสัญญาณโทรศัพท์มือถือ ในพื้นที่เราก็ไปเรียนรู้ในเรื่องของความแตกต่างทางวัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์ ภาษาและร่วมพิธีกรรมทางศาสนากับชาวบ้าน ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและสอบถามปัญหาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่แก่งเสือเต้น อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ที่มีความพยายามในการสร้างเขื่อน แต่ด้วยความเข้มแข็งของชุมชนและความร่วมมือของคนในพื้นที่ จึงทำให้สามารถหยุดการสร้างเขื่อนได้ ทั้งยังได้ฟังแนวทางและข้อเสนอของชาวบ้านที่เสนอต่อหน่วยงานรัฐแทนการสร้างเขื่อน ฯลฯ ซึ่งหลากหลายกิจกรรมเพื่อสังคมเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เรายึดมั่นในอุดมการณ์ และใช้ความรู้ความสามารถที่มีทำประโยชน์เพื่อสาธารณชน ในโอกาสนี้ขอขอบคุณ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม และมหาวิทยาลัยรังสิต สำหรับรางวัลอันทรงคุณค่านี้ และจะรักษาความดีในการทำเพื่อสังคมตลอดไป

นางสาวนริศรา เพียรรักษ์ บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้น้อมนำหลักพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน และช่วยเหลืออื่นและสังคมตามความรู้ความสามารถที่มีอย่างเต็มกำลัง รู้จักที่จะเป็นผู้ให้ก่อนที่จะเป็นผู้รับ ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ได้ร่วมกิจกรรมในโครงการช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสทางสัญชาติ (คนไทยพลัดถิ่น) โดยโครงการนี้ได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งจัดทำขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะช่วยเหลือพี่น้องคนไทยพลัดถิ่นให้ได้รับสัญชาติตามที่ควรจะได้ โดยตนเองและกลุ่มเพื่อนจะลงไปทำกิจกรรมในช่วงปิดเทอมหรือตามแต่โอกาสจะอำนวย ทุกครั้งที่ได้ลงพื้นที่ได้สัมผัสถึงแววตาแห่งความหวังของพี่น้องคนไทยพลัดถิ่นที่หวังว่าสักวันคงจะได้รับสัญชาติไทย และมีบัตรประชาชนอย่างที่คนไทยทุกคนมี ทำให้เราเข้าใจและเห็นใจพวกเขาเหล่านั้นอย่างมาก และทุกครั้งที่ลงพื้นที่กลับมาเราจะทราบข่าวว่ามีพี่น้องคนไทยพลัดถิ่นได้สัญชาติไทยเป็นจำนวนหลายร้อยราย นี่คือสิ่งที่รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพลังเยาวชนอันยิ่งใหญ่ที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และโครงการนี้ยังถือเป็นโครงการที่สามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขให้แก่พี่น้องเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมของคณะและมหาวิทยาลัยอีกหลายกิจกรรมที่เข้าร่วม ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีและเป็นความรู้นอกห้องเรียนที่ไม่ได้มาง่ายๆ แต่ต้องผ่านการทุ่มเทและการร่วมมือทำจากหลายภาคส่วน และขอขอบมหาวิทยาลัยรังสิตสำหรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เป็นรางวัลที่แสดงให้เห็นถึงการทำเพื่อสังคมอย่างแท้จริง และเป็นรางวัลที่ไม่ใช่แค่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตัวเองได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ครอบครัวและคนรอบข้างอีกด้วย ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยรังสิตที่ไม่ได้ใส่ใจเพียงแค่การเรียนการสอน หรือความเข้าใจในการศึกษาเท่านั้น แต่ยังใส่ใจในการที่จะมุ่งสร้างนักศึกษา ให้เติบโตขึ้นไปเพื่อเป็นคนดีที่ต่อสังคมด้วย