01 กุมภาพันธ์ 2568

ข่าวประกาศ

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รับสมัครบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2565 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565 กรมทางหลวง รับสมัครเข้ารับราชการ จำนวน 6 ตำแหน่ง สมัครตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2565 กรมสรรพสามิต รับสมัครบุคคล (คนพิการ) เป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565

ดูบทความเหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ

 

โดย นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางด้านผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

     

 

 

 

หลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าอาการ “เหงื่อออกมือ” อาจเป็นสัญญาณของโรคหัวใจ ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นที่เกิดขึ้น นอกเหนือจากอาการของโรคหัวใจที่พบกันอยู่เป็นประจำ คือ เหนื่อยง่าย หายใจเข้าได้ลำบาก มีอาการหอบหรือเป็นลมหมดสติโดยไม่ทราบสาเหตุ ขาหรือเท้าบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือปลายมือปลายเท้าและริมฝีปากมีลักษณะเขียวคล้ำ เหล่านี้เป็นอาการที่เกิดขึ้นและเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ

 

          ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ศัลยแพทย์ทรวงอกผู้เชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้องจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้อธิบายถึงอาการของโรคหัวใจว่า ผู้ป่วยมักจะมีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอกและมีอาการปวดร้าวไปบริเวณคอหรือแขนซ้ายได้ ในบางรายอาจมีภาวะเหนื่อยง่าย ใจสั่น หรือ เหงื่อออกร่วมด้วยได้ โดยส่วนมากมักจะเกิดขึ้นขณะที่ผู้ป่วยกำลังทำงานหรือออกกำลังกาย  แต่ในทางกลับกัน โรคเหงื่อออกที่มือนั้น ( hyperhidrosis ) ผู้ป่วยมักจะเป็นที่มือทั้ง 2 ข้าง และคนไทยจะป่วยเป็นโรคนี้โดยเฉลี่ย 3% ของประชากรของประเทศ คิดเป็นง่าย ๆ หากประเทศไทยมีประชากร 70 ล้านคน จะมีผู้ป่วยโรคนี้ ถึง 2.1 ล้านคน และสามารถพบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเท่า ๆ กัน โดยลักษณะของโรคนี้มักไม่มีอาการดังกล่าวร่วมด้วย อีกทั้งมักจะเป็นที่มือทั้ง 2 ข้าง ในบางรายอาจมีอาการบริเวณเท้า หรือ บริเวณรักแร้ร่วมด้วยได้ ซึ่งอาการที่จะเกิดไม่สัมพันธ์ต่ออุณหภูมิ เวลาหรือการออกำลังกาย อย่างไรก็ตามภาวะนี้ เราต้องแยกจากโรคที่มีสาเหตุ (Secondary hyperhidrosis) เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ เบาหวาน ตั้งครรภ์ โรคระบบประสาทหรือการรับประทานยาบางชนิด อาจมีผลทำให้เกิดภาวะเหงื่อออกที่มือได้  

 

 

 

 

                ปัจจุบันการรักษาโรคเหงื่อออกที่มือนั้น มีวิธีการรักษาได้หลายแบบตั้งแต่ยารับประทาน สเปรย์ทามือหรือฉีดยา botulinum toxin  อย่างไรก็ตามวิธีการรักษาที่ทำให้หายขาดที่ดีสุด คือ การรักษาโดยการผ่าตัด ( Thoracoscopic sympathectomy ) ทำได้โดยการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็กขนาด 1 เซ็นติเมตร ข้างลำตัวทั้ง 2 ข้างเพื่อเข้าไปเส้นประสาทอัตโนมัติ ( Sympathetic chain ) บริเวณช่องซี่โครงที่ 4 และ 5 อย่างไรก็ตามการผ่าตัดอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า ภาวะเหงื่อทดแทน ( Compensatory hyperhidrosis) ซึ่งพบเหงื่อทดแทนบริเวณที่ลำตัวหรือต้นขาได้

 

 

 

 

                ภาวะโรคเหงื่อออกที่มือ นับว่าเป็นสัญญาณที่ผิดปกติ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต แต่ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตลดลง ผู้ป่วยท่านใดที่พบเจอแนะนำควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุดหรือสามารถสอบถามข้อมูลได้ผ่านทางเฟซบุ๊กผ่าตัดปอด หรือ lineofficial; @lungsurgerythหรือรับชมได้ที่ www.youtube.com/watch?v=ILReCho3R04&t=42s&ab_channel=คณะแพทยศาสตร์

วชิรพยาบาลมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

                                              

15 มิถุนายน 2565

ผู้ชม 322 ครั้ง

Engine by shopup.com