วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ นายอ๊อคตาเวียนโต้ พาซาริบู รองผู้อำนวยการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และ สปป. ลาว ในโอกาสเยี่ยมเยียน พร้อมหารือเชิงนโยบายระหว่างกระทรวงแรงงาน และสำนักงานแรงงานระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย กัมพูชา และ สปป. ลาว โดยมี ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

          นายไพโรจน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานยินดีอย่างยิ่งที่ สำนักงานแรงงานระหว่างประเทศประจำประเทศไทย กัมพูชา และ สปป. ลาว และคณะผู้เชี่ยวชาญ จากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนพร้อมนำเสนอแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทย (Dcent Work Country Programme: DWCP) และหารือเชิงนโยบายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงแรงงานในวันนี้ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสและการรับรู้เกี่ยวกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ตลอดจนแผนงานระดับชาติว่าด้วยงานที่มีคุณค่าของประเทศไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อันจะต่อยอดไปสู่ความร่วมมือใหม่ ๆ ต่อไปในภายภาคหน้า ตามโครงการใหม่ที่มีแผนจะเริ่มดำเนินการในอนาคต

          โดยได้รับการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ มาให้ความรู้ รายละเอียดในโครงการความร่วมมือทางวิชาการที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งมีจำนวน 13 โครงการ ได้แก่ 1) การเสริมสร้างศักยภาพสำนักงานประกันสังคมด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยและการวิจัย(SSO Actuarial) 2) โครงการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิแรงงานข้ามชาติ (TRIANGLE IN ASEAN) 3) โครงการสิทธิจากเรือสู่ฝั่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Ship to Shore Rights South East Asia) 4) โครงการความปลอดภัยและยุติธรรม: สิทธิและโอกาสของแรงงานต่างด้าวสตรีในภูมิภาคอาเซียน (SAFE and FAIR) 5) โครงการส่งเสริมการรับรู้สิทธิของแรงงานข้ามชาติ (Migrant Advocacy for Rights) 6) โครงการพัฒนากลไกการรับรองทักษะและการยกระดับการฝึกอบรมด้านเทคนิคและการอาชีวศึกษาสู่ดิจิทัลในอาเซียน (Improved mechanisms for skills recognition and TVET digitisation in ASEAN) 7) โครงการเยาวชนคนสร้างอนาคต – ระยะที่ 2 (Young Futuremakers Thailand – Phase II) 8) โครงการห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืน (Resilient, Inclusive and Sustainable Supply Chain Asia (RISSC) in Thailand) โดยคุณ David Williams 9) โครงการพัฒนาฝีมือแรงงานและการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (Skills Development and Responsible Business Conduct for Transition) 10) โครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจสังคมสมานฉันท์ในภูมิภาคเอเชีย (Strengthening the SSE in Asia – Phase II) โดยคุณ Heejin Ahn 11) โครงการส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนและเครือข่ายในเอเชียแปซิฟิก (Building Youth Capacity and Network in Asia-Pacific) 12) โครงการส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขอนามัย ตามหลักการและ สิทธิขั้นพื้นฐานในการทำงาน ในกัมพูชาและประเทศไทย (SSN/OSH) และ 13) การส่งเสริมการพัฒนาระดับโลก โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือใต้ – ใต้ ด้านการจ้างงานในอาเซียน (ProSSCE-ASEAN)

          นายไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงแรงงานมีความพร้อมและยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทุกโครงการ และขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ ILO เพื่อส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิแรงงานทุกกลุ่ม อย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติ บนหลักการของงานที่มีคุณค่าและไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง โดยกระทรวงแรงงานจะดำเนินความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด กับ ILO เพื่อยกระดับความคุ้มครองแรงงาน ที่สอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศและมาตรฐานสากล