วันที่ 6 กันยายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้โอวาทเยาวชนตัวแทนประเทศไทย ที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 47 ที่เมืองลียง หรือ WorldSkills Lyon 2024 สาธารณรัฐฝรั่งเศส กำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 11 – 14 กันยายนนี้ ส่งประชันฝีมือ 22 คน ใน 19 สาขา โดยมีนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวง ร่วมงาน ก่อนออกเดินทางในช่วงค่ำวันเดียวกัน

          นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับเยาวชนตัวแทนประเทศไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนแสดงฝีมืออย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานานาอารยประเทศ นำชื่อเสียงกลับมาสู่ประเทศ และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นต่อไป กระตุ้นให้เห็นความสำคัญในการฝึกฝนและพัฒนาทักษะฝีมือเพื่ออนาคตของตนเอง และยังสามารถเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย โดยประเทศไทยส่งเข้าชิงในครั้งนี้ 19 สาขา มีตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 22 คน ซึ่งเป็นสาขาที่มีความพร้อมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การส่งเยาวชนไทยไปร่วมการแข่งขันในแต่ละเวทีนั้น เป็นการสร้างโอกาสให้กับแรงงานไทยรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และหาประสบการณ์ อีกทั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขารวมถึงผู้บริหารของกระทรวงแรงงาน มีโอกาสเข้าไปสังเกตการณ์ เพื่อศึกษาแนวโน้มและทิศทางความต้องการและการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อนำแนวทางนั้นมาประยุกต์ใช้กับแรงงานในประเทศไทยต่อไป

          "ทุกสาขาที่ประเทศไทยจัดส่งเข้าแข่งขันนั้น ผมหวังว่าจะสามารถคว้าเหรียญทองกลับมา แต่ไม่ว่าจะคว้าเหรียญมาได้หรือไม่นั้น น้อง ๆ เยาวชนเหล่านี้จะได้รับประสบการณ์สามารถนำมาพัฒนาประเทศต่อไปได้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยทุกคน ร่วมส่งแรงใจให้เยาวชนไทย ทั้ง 22 คน ในการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 47 (WorldSkills Lyon 2024) คว้าชัยกลับมา " รมว.พิพัฒน์ กล่าว

          ทางด้านของนางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติครั้งนี้ ประเทศเจ้าภาพมีการจัดแข่งขันทั้งหมด 59 สาขาและ 3 สาขาสาธิต การแข่งขันจะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับเยาวชนไทยได้เก็บเกี่ยวความรู้ เพื่อนำไปต่อยอดในการใช้ชีวิตและพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคต สำหรับเหรียญรางวัลจะเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความสามารถของแรงงานไทยรุ่นใหม่ อีกทั้งเป็นรางวัลของการทุ่มเททั้งกายและใจ ในการฝึกซ้อมมาเป็นระยะเวลานานเกือบครึ่งปี แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้น คือความภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ และยังเป็นบทพิสูจน์อีกด้วยว่าแรงงานรุ่นใหม่ของไทยมีการพัฒนาอยู่ในระดับใดในมาตรฐานโลก ซึ่งผลลัพธ์นี้จะเป็นโจทย์ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานต้องวางแนวทางในการพัฒนากำลังแรงงานต่อไป โดยส่วนตัวมีความมั่นใจว่าน้อง ๆ เยาวชนทุกคน จะใช้ความรู้ความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์ในการแข่งขันจากเวทีต่าง ๆ มาใช้ในเวทีระดับโลกอย่างเต็มที่ เพื่อนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย