17 มีนาคม 2568 – กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ คุณประชุม ตันติประเสริฐสุข รองประธานฝ่ายปฏิบัติการประจำประเทศไทย บริษัท ดุสิต อินเตอร์เนชันแนล อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี และคณะ เพื่อหารือแนวทางพัฒนาแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน และหารือในการเปิดโอกาสให้นักศึกษาชาวไทย และต่างชาติเข้าทำงานอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงการขยายโอกาสให้แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และรองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เข้าร่วมด้วย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การหารือในครั้งนี้มีข้อเสนอเกี่ยวกับโอกาสที่นักศึกษาต่างชาติจาก วิทยาลัยดุสิตธานี จะสามารถทำงานในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ผมขอยืนยันว่า กระทรวงแรงงานมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ยังไม่สามารถเปิดให้ชาวต่างชาติทำอาชีพสงวนของไทยได้ ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งกำหนดอาชีพที่สงวนให้เฉพาะคนไทย เช่น มัคคุเทศก์ งานขายของหน้าร้าน งานบริการนวดไทย และงานบริการด้านอาหารในบางประเภท

“กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการ ปกป้องอาชีพแรงงานไทย เพื่อให้แรงงานไทยมีโอกาสทำงานและสร้างรายได้ในประเทศ ขณะเดียวกัน เราสนับสนุนการพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับสากลได้” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ ระบุต่อว่า กระทรวงแรงงาน โดย กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีความร่วมมือกับ ดุสิตธานี ในการพัฒนาทักษะแรงงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมาได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) หลายฉบับ อาทิ การฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและบริการ โครงการพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงานด้านอาหารไทย เพื่อยกระดับเชฟไทยสู่ครัวโลก และ การจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ในสาขาการประกอบอาหารไทย
ซึ่งการพัฒนาทักษะเป็นหัวใจสำคัญของแรงงานไทยในยุคการแข่งขันระดับโลก กระทรวงแรงงานพร้อมสนับสนุนให้นักศึกษา ได้รับโอกาสเข้าทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการพัฒนาฝีมือและมาตรฐานการทำงานที่เป็นที่ยอมรับ”

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ได้หารือ คือ โอกาสในการส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและบริการ ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการแรงงานฝีมือสูง กระทรวงแรงงานมีแนวทางส่งเสริมให้แรงงานไทยได้ทำงานอย่างถูกต้อง ผ่านการพัฒนาฝีมือ การจัดหางานผ่านระบบ MOU และการรับรองมาตรฐานแรงงาน พร้อมสนับสนุนให้แรงงานไทยได้ก้าวไปสู่ตลาดแรงงานต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีความต้องการสูง เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มเปิดรับแรงงานฝีมือด้านอาหารและการบริการมากขึ้น” นายพิพัฒน์กล่าวปิดท้าย

นายบุญสงค์ กล่าวเสริมว่า การยกระดับแรงงานไทยให้มีมาตรฐาน เป็นการปูทางสู่โอกาสที่มั่นคง ซึ่งการหารือครั้งนี้สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ โดยกระทรวงแรงงานจะเดินหน้าส่งเสริมให้แรงงานไทยมีมาตรฐานระดับสากล และปกป้องอาชีพที่เป็นของคนไทย พร้อมสนับสนุนให้แรงงานไทยมีโอกาสในตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ