วันนี้ (15 พฤษภาคม 2568 ) เวลา 10.34 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม    ประจำปีการศึกษา 2566 เป็นวันแรก

ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ประสงฆ์ และพระสงฆ์ผู้เข้ารับรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประเภทผู้ทำคุณประโยชน์ให้มหาวิทยาลัย แด่พระราชวชิรโสภณ วิ. (หลอ นาถกโร)

จากนั้น รองศาสตราจารย์ ดร.นิตยา วรรณกิตร์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและภาพลักษณ์องค์กร เข้าเผ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2566 นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลรายงานกิจการของมหาวิทยาลัย และเบิกผู้ทรงคุณวุฒิเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิงสมศรี เผ่าสวัสดิ์ ปริญญาแพทยศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์

นายวิทูร สุริยวนากุล ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบัญชี

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์

และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลดีเด่นประจำปี ซึ่งถือเป็นบุคคลที่สร้างคุณงาม ความดี ทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมและประเทศชาติ สมควรได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ

ประเภทศิษย์เก่าดีเด่น ได้แก่ Mr.Ou Weiyong (นายโอว เหว่ยหย่ง)

ประเภทบุคคลดีเด่นระดับชาติ/นานาชาติ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ นายสิทธิพงษ์ โทไข่ษร

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีนโยบายส่งเสริมและเชิดชูเกียรตินักวิจัย ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในวงวิชาการหรือสังคมวิชาการทั่วไป ตลอดจนเพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจในการทำงานวิจัย สมควรได้รับพระราชทานรางวัลเชิดชูเกียรตินักวิจัยดีเด่น ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.สุรพล แสนสุข, รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติพล วิแสง และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพ.สมาธิ ปัทมธรรมกุล พระราชทานรางวัลอาจารย์ผู้สอนดีเด่น แด่ รองศาสตราจารย์ศิริมงคล นาฎยกุลวงศ์ สังกัดคณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์

จากนั้น อธิการบดีกราบบังคมทูลเบิกผู้เข้ารับพระราชทานทุนภูมิพล ประจำปีการศึกษา 2566 จำนวน 30 ราย   ในปีนี้มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวมทั้งสิ้น 6,792 คน และ ในวันแรกมีบัณฑิตเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 3,618 คน

“ในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีความพร้อมในการเปิดภาคการศึกษาอย่างเต็มศักยภาพ

ด้วยจำนวนหลักสูตรที่ครอบคลุมถึง 205 หลักสูตร ใน 17 คณะ และ 2 วิทยาลัย รองรับนิสิตทุกระดับรวมกว่า 49,035 คน พร้อมด้วยทีมบุคลากรผู้ทรงคุณวุฒิ และเชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 3,623 คน

มมส มีความโดดเด่นด้านการจัดการเรียนการสอน ที่ผสานทฤษฎีและภาคปฏิบัติอย่างลงตัว ด้วยห้องเรียนและเครื่องมือปฏิบัติการที่ทันสมัยตามมาตรฐานสากล มุ่งเน้นการบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนาองค์ความรู้ท้องถิ่นให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างไม่หยุดยั้ง ผสานพลังชุมชน มุ่งสู่ความเป็นเลิศระดับนานาชาติ ตระหนักถึงความสำคัญ ของการเป็นมหาวิทยาลัยที่ใกล้ชิดกับชุมชน โดยดำเนินงานภายใต้พันธกิจหลัก ทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอีสาน อย่างเข้มแข็ง มุ่งเน้นการบูรณาการเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมในทุกภาคส่วน

ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนามหาวิทยาลัย มุ่งมั่นขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับเอเชีย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ การสร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นเลิศในระดับนานาชาติ การให้บริการวิชาการเพื่อตอบสนองภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาสังคม การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอีสานให้เป็นที่ประจักษ์ในเวทีโลก และการบริหารจัดการองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะ

ตอกย้ำความสำเร็จด้วยการจัดอันดับระดับโลก ในปีพุทธศักราช 2568 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจอีกครั้ง ด้วยการได้รับการยอมรับและจัดอันดับ จากสถาบันจัดอันดับชั้นนำระดับนานาชาติหลายแห่ง อาทิ Times Higher Education (THE) World University Rankings 2025, QS Asia Rankings 2025, SCIMAGO Institutions Rankings 2025 และ UI GreenMetric World University Rankings 2024 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จในการพัฒนาในทุกมิติ”

ภายหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และสติปัญญา เป็นกำลังสำคัญที่จะเกื้อหนุน ส่งเสริม และสร้างสรรค์ ให้สังคมและประเทศชาติพัฒนาก้าวหน้า ขอให้บัณฑิตทุกคน หมั่นทบทวนความรู้ที่มีอยู่ให้ยิ่งลึกซึ้งแตกฉาน สร้างเสริมเพิ่มพูนความรู้อย่างสม่ำเสมอเพื่อพัฒนาตน ถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ ให้กว้างขวาง เพื่อต่อยอดความรู้มีให้เสื่อมสูญ และนำความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้สำเร็จผลเป็นประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวม

สังคมปัจจุบัน เป็นสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปตามกระแสโลก บัณฑิตไม่ว่าจะกระทำการใด ปฏิบัติหน้าที่ใด จึงต้องใช้สติปัญญาไตร่ตรองอย่างรอบด้าน และธำรงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไว้ให้มันคงยั่งยืน พร้อมกันนั้น ก็ต้องมีศรัทธาเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง มีความพากเพียรทั้งในการทำงานและการทำความดีอยู่เสมอ หากแต่ละคนระลึกและปฏิบัติได้เช่นนี้ ก็จะประสบความสำเร็จในชีวิตและกิจการงาน สามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ตนเองและสังคมได้ สมกับที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และบ้านเมืองเรา ก็จะมีความรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างยั่งยืนแท้จริง”

ในโอกาสนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กราบบังคมทูลเบิก รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและภาพลักษณ์องค์กร เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรายงานผลการศึกษาของนิสิต ทุนนักเรียนในพระราชราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตำรวจตระเวนชายแดน ผู้ดูแลนิสิตทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 2 ราย บัณฑิตและนิสิตทุนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 20 ราย ผลการดำเนินงานกองทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปีการศึกษา 2566 บัณฑิตและนิสิตกองทุนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นิสิตกัมพูชา เข้าเฝ้าฯ จำนวน 14 ราย ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ