สำนักงานประกันสังคม ครบรอบ 27 ปี 3 กันยายน 2560 แจงผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ที่ผ่านมา เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน ผลตอบแทนจากการลงทุนสะสมกว่า 4.9 แสนล้าน เผยในปี 60 สำนักงานประกันสังคมได้รับการแต่งตั้งประธานและเลขาธิการสมาคม ASSA รองรับความเป็นผู้นำด้านประกันสังคมอาเซียน

พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันจัดตั้งสำนักงานประกันสังคม ครบรอบ 27 ปี ในวันที่ 3 กันยายน 2560 โดยกำหนดจัดงานครบรอบ ในวันศุกร์ที่ 1 กันยายน 2560 ณ อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 4 สำนักงานประกันสังคม และในโอกาสที่สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการมาครบ 27 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบประกันสังคมของประเทศ ให้เข้าสู่ยุคใหม่ เป็นที่ไว้วางใจของประชาชน เพื่อให้ผู้ประกันตน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะผลักดัน ให้งานด้านประกันสังคมสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายได้ และเชื่อมั่นว่า สำนักงานประกันสังคมจะเป็นองค์กรชั้นนำที่มีระบบบริหารจัดการที่ดี มีกระบวนการตรวจสอบการดำเนินงานที่เข้มแข็ง เนื่องจากภารกิจ ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินกองทุน และเป็นที่จับตามองของสาธารณชน ฉะนั้น ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินงานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความไว้วางใจและเป็นที่ยอมรับ

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในโอกาสครบรอบวันก่อตั้งสำนักงานประกันสังคมว่า ตลอดระยะเวลา 27 ปี สำนักงานประกันสังคมได้พัฒนางานให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมให้ความคุ้มครองแรงงานทั้งในและนอกระบบจำนวนกว่า 14 ล้านคน ภายใต้การบริหารงาน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนประกันสังคม ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตน 11.99 ล้านคน ในสถานประกอบการ 439,886 แห่ง จ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตน จำนวน 19,681 ล้านครั้ง เป็นเงิน 32,403.314 ล้านบาท กองทุนเงินทดแทน ให้ความคุ้มครองลูกจ้าง 9.59 ล้านคน อยู่ภายใต้นายจ้าง 404,961 ราย จ่ายสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกจ้าง จำนวน 125,940 ครั้ง เป็นเงิน 1,060,461 ล้านบาท ด้านการบริหารการลงทุน กองทุนประกันสังคมเป็นกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ณ 30 มิถุนายน 2560 มีเงินลงทุน 1.64 ล้านล้านบาท มีผลตอบแทนสะสม 491,567 ล้านบาท ในปี 2559 กองทุนประกันสังคม สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนจำนวน 52,736 ล้านบาท มากกว่า ปี 2558 จำนวน 7,841.64 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.47 ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนที่ได้ นำมาจ่ายสิทธิประโยชน์ ให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน ได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว และพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน ต่อไป

เลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ กรณีทันตกรรมเพิ่มค่าบริการ จาก 600 บาทต่อปี เป็น 900 บาท ต่อปี และเพิ่มช่องทางการให้บริการโดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย ณ สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียน ปัจจุบันมีสถานพยาบาลของรัฐกว่า 19,000 แห่ง และสถานพยาบาลในความตกลงของเอกชน จำนวน 925 แห่ง มีผู้ประกันตนที่ใช้บริการระหว่างเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2560 จำนวน 1.158 ล้านครั้ง เป็นเงิน 748.78 ล้านบาท ด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดยให้บริการตรวจสุขภาพฟรีแก่ผู้ประกันตน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2560 โรงพยาบาลให้บริการ รวมทั้งสิ้น 204 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 85.35 ของโรงพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคม ผู้ประกันตนเข้ารับการตรวจสุขภาพ 233,177 คน โดยสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายผ่านระบบการเบิกจ่าย e-claim ให้แก่สถานพยาบาล 124.94 ล้านบาท ด้านการปรับปรุงรายการและอัตราค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรคกรณีสูญเสีย ปรับเพิ่มจากเดิม 31 รายการ เพิ่มเป็น 95 รายการ (ตุลาคม 2559 – พฤษภาคม 2560) มีผู้ประกันตนเบิกจ่ายทั้งสิ้น จำนวน 9,045 ราย เป็นเงิน 23.50 ล้านบาท ด้านการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยอันเนื่องมาจากการทำงาน จากวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์จากการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น ด้านพัฒนาการให้บริการ เพิ่มช่องทางการชำระเงินผ่านระบบธนาคาร/ หน่วยบริการ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผู้ใช้บริการทั้งสิ้น (เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2560) จำนวน 12,595 ล้านรายการ เป็นเงิน 74,356.117 ล้านบาท ในปี 2559

ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 โดยนำระบบ Doing Business มารณรงค์และจูงใจให้นายจ้างยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพื่อให้สถานประกอบการ ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงบริการมากขึ้นในการเริ่มต้นธุรกิจ โดยไม่ต้องมาติดต่อ ณ สำนักงานประกันสังคม ซึ่งได้เชื่อมโยงกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และนำส่งข้อมูลเงินสมทบผ่านระบบ National Single Window เชื่อมโยงกับระบบ SSO E-Service ของสำนักงานประกันสังคม และการบูรณาการหน่วยงานในการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์กับสถานพยาบาลผ่านระบบ National Clearing House ตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2560 ผลการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์กรณีผู้ป่วยโรคไตและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จำนวน 1.02 ล้านครั้ง เป็นเงิน 2,750.52 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคม ได้พลิกโฉมการให้บริการช่องทางใหม่เพื่อรองรับ Thailand 4.0 ให้บริการตรวจสอบสิทธิ พร้อมข้อมูลข่าวสารผ่าน application “SSO Connect” โดยเปิดให้เริ่มดาวน์โหลด ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2560 ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแล้วทั้งสิ้น 548,731 ราย และในปี 2560 ประเทศไทย โดยสำนักงานประกันสังคม ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมการประกันสังคมอาเซียน ครั้งที่ 34 ณ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2560 ณ โรงแรมเซ็นทาราแอนด์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดอุดรธานี โดยมีองค์กรสมาชิก 19 องค์กร จาก 10 ประเทศในอาเซียนเข้าร่วมการประชุม เพื่อเป็นการรับมือสังคมผู้สูงอายุ พัฒนาสิทธิผู้ประกันตน ปฏิรูปกองทุนอย่างยั่งยืน โดยนายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม รับมอบตำแหน่งประธานสมาคม ASSA และสำนักงานประกันสังคม จะดำเนินการเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียน ใน 2 ประเด็น ได้แก่

1. จัดตั้งศูนย์คณิตศาสตร์ประกันภัย Regional Actuarial Service Unit
2. งานวิจัยเรื่อง การเคลื่อนย้ายสิทธิประกันสังคมสำหรับแรงงานข้ามชาติในภูมิภาคอาเซียน

สำหรับกล่าวถึงการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานประกันสังคมครบรอบ 27 ปี ภายในงานได้จัดให้มีพิธีมอบโล่และรางวัล เพื่อประกาศเกียรติคุณ ยกย่อง แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่สำนักงานประกันสังคม และสถานพยาบาลในดวงใจ อีกทั้งเป็นการกระตุ้น จูงใจให้สถานพยาบาลมีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการแก่ผู้ประกันตนให้ดียิ่งขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบโล่และรางวัล ประจำปี 2560 ทั้งนี้ มีสถานพยาบาลที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นสถานพยาบาลในดวงใจ จำนวน 17 แห่ง สำหรับ รางวัลผู้ทำคุณประโยชน์บุคคลดีเด่น จำนวน 11 ท่าน ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการด้านการแพทย์ ด้านนวัตกรรม ด้านคุณธรรมจริยธรรม และด้านสนับสนุนเครือข่ายประชาสัมพันธ์และอื่น ๆ รวมทั้งโรงพยาบาลที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ สำนักงานประกันสังคม จำนวน 6 แห่ง

เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่าตลอดระยะเวลา 27 ปีที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ และความคุ้มครองต่างๆ ให้กับผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่อง และยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการให้บริการด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมนำระบบ E – Service และการให้บริการผ่านระบบ Smart Phone อย่างครบวงจรให้ผู้ประกันตนได้รับการบริการที่ดี สะดวก รวดเร็ว ทันสมัย และได้รับประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเป็นการรองรับการก้าวสู่ Thailand 4.0 ตอบสนองนโยบาย Zero Corruption รวมทั้งมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านประกันสังคมของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริการ และคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกจ้าง/ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมต่อไป