กระทรวงแรงงาน ชี้แจงขับเคลื่อนนโยบายการให้สิทธิประกันสังคมแก่แรงงานภาคสมัครใจ เพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มทางเลือกผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ คืนสิทธิผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ ที่สิ้นสภาพกลับเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพิ่มช่องทางการให้บริการรับ-จ่ายเงินผ่านเครือข่ายพันธมิตรครอบคลุมทุกพื้นที่ ชำระเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียม พร้อมเดินหน้าพัฒนาไม่หยุดยั้ง เพื่อประโยชน์สูงสุดของแรงงานเป็นสำคัญต่อไป

วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๓.๓๐ น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานการประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนนโยบายการให้สิทธิประกันสังคมแก่แรงงานภาคสมัครใจ ณ ห้องประชุม ROYAL JUBILEE BALLROOM อิมแพค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จากยุทธศาสตร์ชาติในระยะ ๒๐ ปี ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การสร้างโอกาสความเสมอภาค และเท่าเทียมกันทางสังคม ที่กำหนดให้มีการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมเหมาะสมกับคนทุกเพศทุกวัย และทุกกลุ่มอาชีพ พร้อมส่งเสริมให้แรงงานภาคสมัครใจเข้าสู่ระบบประกันสังคมอย่างทั่วถึง จึงได้มอบนโยบายเน้นหนัก และเร่งด่วน ผลักดันให้แรงงานนอกระบบเข้าถึงหลักประกันทางสังคม เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างทั่วถึง ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายเพิ่มสิทธิประโยชน์และเพิ่มทางเลือกในการคุ้มครองให้กับผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ รวมทั้งแก้ไขกฎหมายคืนสิทธิให้ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ ที่สิ้นสภาพให้สามารถกลับเข้าสู่การคุ้มครองในระบบประกันสังคมอีกครั้ง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระได้มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมยังได้เดินหน้าพัฒนาการให้บริการ และการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทั้งการเพิ่มช่องทางการให้บริการรับ-จ่ายเงินผ่านเครือข่ายพันธมิตรให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เช่น เพิ่มช่องทางการชำระเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ ผ่านระบบหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ ธนาคารธนชาติ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส ตู้บุญเติม บิ๊กซี และเซ็นเพย์ ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียม เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกันตน รวมถึงการเพิ่มช่องทางการตรวจสอบการคืนสิทธิผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และการสมัครเป็นผู้ประกันมาตรา ๔๐ ทางระบบอินเตอร์เน็ต พร้อมเดินหน้าในการพัฒนาไม่หยุดยั้ง เพื่อประโยชน์สูงสุดของแรงงานเป็นสำคัญ

ความสำเร็จจากการประชุมในวันนี้จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายการให้สิทธิประกันสังคมแก่แรงงานอิสระ ภาคสมัครใจ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศจะร่วมขับเคลื่อนงาน และสานต่อนโยบายพร้อมทั้งสร้างการรับรู้ในระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการให้บริการแบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน พร้อมระบบการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริต หรือข้อผิดพลาดในการรับ-จ่ายเงิน ซึ่งเชื่อมั่นว่าถ้าสามารถดำเนินการได้ตามแนวทางดังกล่าว จะพลิกโฉมระบบประกันสังคมไทยในการขยายความคุ้มครองแรงงานทุกกลุ่ม เพื่อสร้างหลักประกันแห่งการคุ้มครองแก่สมาชิกประกันสังคมไปสู่ความสำเร็จเกิดผลสัมฤทธิ์ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ทำให้แรงงานสามารถสร้างเสริมระบบเศรษฐกิจและประเทศชาติให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนต่อไป พลตำรวจเอก อดุลย์ฯ กล่าวท้ายที่สุด