เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด  ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.)และจังหวัดบุรีรัมย์ จัดการแข่งขัน “ฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง” Honda Eco Mileage challenge ครั้งที่ 22 ประจำปี 2562 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี   โดยมี นายอรรถพล สังขวาสี ผู้ช่วยเลขาธิการ สอศ.เป็นประธาน ซึ่งมีนายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด และคณะผู้บริหารจาก บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า และนายจักรพงษ์ ภิญโญทรัพย์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด เข้าร่วมพิธีเปิดงานดังกล่าว

นายอรรถพล สังขวาสี ผู้ช่วยเลขาธิการ สอศ.กล่าวในฐานะประธานเปิดการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง ระดับประเทศ ประจำปีที่ 22  พ.ศ.2562 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ว่า ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำในการจัดการศึกษาสายอาชีพ เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งการแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิงนี้ มีส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาบุคลากรทางด้านทักษะวิศวกรรมยานยนต์ ได้ต่อยอดการเรียนรู้ภายในห้องเรียนผสานความคิดสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการอนุรักษ์พลังงาน ก้าวสู่ภาคปฏิบัติบนสนามแข่งขันที่มีมาตรฐาน นับเป็นกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์ล้ำค่าเป็นอย่างมากแก่ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งมีนักเรียน นิสิต นักศึกษาให้ความสนใจเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมากกว่า 470 ทีม จากทั่วทุกจังหวัด สะท้อนให้เห็นว่าเยาวชนได้ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม  โดยการระดมสมองร่วมกันสร้างสรรค์ยานยนต์ประหยัดพลังงาน ได้มีการช่วยเหลือร่วมมือกันเพื่อก้าวไปสู่จุดหมายเดียวกัน ตลอดจนได้เรียนรู้จากสถานการณ์จริงในการทำงานร่วมกัน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคซึ่งกันและกัน ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตปัจจุบันและอนาคตได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้  เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในสายอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ได้แสดงความสามารถในการออกแบบและประดิษฐ์ยานพาหนะที่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากที่สุด บนความท้าทาย “น้ำมันหนึ่งลิตร จะวิ่งได้ไกลแค่ไหน” โดยผู้ชนะจะได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิงระดับนานาชาติรายการ Honda Soichiro Cup ครั้งที่ 40 ในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยปีนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 440 ทีม หรือกว่า 2,200 คน จากทั่วประเทศ

ดร.อารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า การแข่งขันฮอนด้าประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge คือ การแข่งขันบนพื้นฐานแนวความคิดที่ว่า “น้ำมัน 1 ลิตร จะสามารถวิ่งไปได้ไกลแค่ไหน” โดยมีเป้าหมายให้ทุกคนได้สนุกสนานไปกับการประดิษฐ์ คิดค้น ทดสอบ ทดลอง พร้อมกับคำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ด้วยแนวความคิดที่ว่า “พลังงานเชื้อเพลิงเป็นสิ่งมีค่า และ นับวันมีแต่จะหมดไป” ดังนั้น ถ้าเราสามารถประดิษฐ์ยานยนต์ ที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากเท่าไหร่ ก็จะสามารถชะลอการหมดไปของเชื้อเพลิงบนโลกได้มากเท่านั้น รวมทั้งยังช่วยลดมลภาวะที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงได้อีกทางหนึ่ง

ด้วยความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก และเป็นองค์กรที่เป็นผู้นำในการคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ฮอนด้าได้บรรจุความมุ่งมั่นนี้เป็นนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจ และเพื่อที่จะมีส่วนร่วมในการ “จุดพลังฝัน” ให้กับ เยาวชนไทยที่เป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต สร้างสรรค์ยานยนต์ภายใต้แนวคิดที่ว่า “พยายามอย่างเต็มความสามารถในการประหยัดพลังงานธรรมชาติที่มีอยู่จำกัด และทำให้สามารถเคลื่อนที่ได้ไกลที่สุด”

ฮอนด้าจึงได้ทำการแข่งขันประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นอย่างจริงจังในประเทศไทย เป็นประเทศที่ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2541 โดยความ ร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการ อาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้เข้า แข่งขันทุกท่าน ที่จะได้เรียนรู้ทั้งเรื่องความสำคัญของเชื้อเพลิงแต่ละหยด ตลอดจนการได้เรียนรู้ความสำคัญ การทำงานเป็นทีม ที่จะมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือ สิ่งที่ได้รับความสนใจ และ ชื่นชม มากกว่าผลการแข่งขัน การแพ้หรือชนะ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ฮอนด้ามุ่งหวังและ ปลาบปลื้มในฐานะผู้จัดการแข่งขัน

ด้านนายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติยิ่ง ที่ได้เป็นจังหวัดศูนย์กลางของผู้เข้าแข่งขันจากทั่วประเทศ และขอขอบคุณทางสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ทำให้จังหวัดบุรีรัมย์มีสนามแข่งขันรถที่ได้มาตรฐานระดับโลก จึงได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าบ้านในครั้งนี้ รวมถึงทำให้เยาวชนที่มาแข่งขันในวันนี้ได้รับประสบการณ์ระดับโลก ณ สนามแห่งนี้อีกด้วย ขอชื่นชมในความตั้งใจจริงของ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ที่ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาของเยาวชนอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานถึง 22 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ให้คณาจารย์ร่วมกับนักศึกษา เรียนรู้จากภาคปฏิบัตินอกหลักสูตร พัฒนาความรู้และทักษะในการคิดค้นและประดิษฐ์ยานยนต์ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง ยังเป็นการแสดงออกซึ่งความคิดในเชิงสร้างสรรค์ อันเป็นการฝึกฝนเพื่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านความคิด พร้อมทั้งฝึกการทำงานเป็นทีม และยังสร้างจิตสำนึกที่ดี ด้านการอนุรักษ์พลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่ดีในการตอบสนองนโยบายของภาครัฐได้อีกด้วย

สำหรับการแข่งขันรถประหยัดเชื้อเพลิง Honda Eco Mileage Challenge จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท  ประกอบด้วย ประเภทรถประดิษฐ์ และประเภทรถตลาด โดยประเภทรถประดิษฐ์ คือ ประเภทรถแข่งที่ทีมแข่งจะต้องประดิษฐ์ตัวถังขึ้นเองทั้งหมด พร้อมติดตั้งเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด PGM-Fi ที่ฮอนด้าให้การสนับสนุน ซึ่งในประเภทรถประดิษฐ์นี้จะแบ่งเป็นกลุ่มย่อยตามสถานศึกษา  3 ระดับ คือ ระดับอาชีวศึกษา ระดับอุดมศึกษา และ ระดับประชาชนทั่วไป   ส่วนประเภทรถตลาด เป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าแข่งขันได้โดยใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110i   ฮอนด้าซีแซดไอ  และ ฮอนด้าดรีม 110i โดยสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ตามกติกาที่กำหนด ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทำความเร็วในสนามอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 30 กม./ชม และกำหนดจำนวนรอบสำหรับรถประดิษฐ์ที่ 4 รอบ และ 2 รอบสำหรับรถตลาด ซึ่งระยะทางรวมของสนามต่อรอบอยู่ที่ 4.554 กิโลเมตร สำหรับการวัดค่าประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง จะคำนวณจากน้ำหนักของน้ำมันที่ใช้ไปในระหว่างการแข่งขัน ทีมที่มีอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยที่สุด จะเป็นผู้ชนะ และรถทุกคันจะต้องผ่านการตรวจสอบจากคณะกรรมการโดยละเอียด

ผลการแข่งขันทีม Black Dragon คว้าแชมป์ Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 22 ด้วยสถิติประหยัดน้ำมัน 4,133.76 กม./ลิตร

ปิดฉากไปแล้วกับการแข่งขัน Honda Eco Mileage Challenge ครั้งที่ 22 ภายใต้โครงการ “เอ.พี.ฮอนด้าเพื่อสังคมไทย" ผลปรากฏว่าทีม Black Dragon จากวิทยาลัยเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา ทำสถิติวิ่งได้ 4,133.76 กม. ต่อน้ำมัน 1 ลิตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 31.397 กม./ชม. คว้ารางวัลชนะเลิศพร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง

รางวัลรองชนะเลิศตกเป็นของทีม Genuine จาก วิทยาลัยเทคนิค สกลนคร วิ่งได้ 4,121.4230 กม./ลิตร ใช้ความเร็วเฉลี่ย 32.614 กม/ชม. โดยทั้งสองทีมนี้จะได้สิทธิเป็นตัวแทนเยาวชนไทยร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ The 40th Honda Soichiro Cup Honda Eco Mileage Challenge 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่รางวัลชนะเลิศในประเภทอื่น ๆ มีดังนี้

รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอาชีวศึกษา

อันดับ 1 ทีม “Black Dragon” หมายเลข 120 จาก วิทยาลัยเทคโนโลยี ฉะเชิงเทรา วิ่งได้ 4,133.7630 กม./ ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.397 กม./ชม.

อันดับ 2 ทีม “Genuine” หมายเลข 326 จาก วิทยาลัยเทคนิค สกลนคร วิ่งได้ 4,121.4230 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 32.614 กม./ชม.
อันดับ 3 ทีม “ศรีชัย” หมายเลข 221จาก วิทยาลัยเทคนิค สุราษฎร์ธานี วิ่งได้ 1,264.3560 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 33.682 กม./ชม.

รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา
อันดับ 1 ทีม “Challenger” หมายเลข 503 จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร วิ่งได้ 1,298.8490 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.582 กม./ชม.
อันดับ 2 ทีม “ตะโกราย. 1” หมายเลข 534 จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา วิ่งได้ 1,138.2330 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.626 กม./ชม.
อันดับ 3 ทีม “ตะโกราย. 2” หมายเลข 535 จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา วิ่งได้ 925.3870 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.310 กม./ชม.

รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถประดิษฐ์ ระดับประชาชน
อันดับ 1 ทีม “Infernal deva” หมายเลข 606 จากร้าน ซ้งบริการ นครปฐม วิ่งได้ 1,120.6790 กม./ชม ความเร็วเฉลี่ย 31.126 กม./ชม.
อันดับ 2 ทีม หมายเลข 605 “จารุเจริญยนต์ NMVC” จากร้าน จารุเจริญยนต์ นครปฐม วิ่งได้ 940.5150 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 32.113 กม./ชม.
อันดับ 3 ทีม “ศรีสะเกษเซอร์วิส” หมายเลข 609 จากร้าน ศรีสะเกษเซอร์วิส ศรีสะเกษ วิ่งได้ 524.1750 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 30.553 กม./ชม.

รางวัลชนะเลิศ ประเภทรถตลาด
อันดับ 1 ทีม “Siec eco sport” หมายเลข 889 จาก วิทยาลัยการอาชีพ ศรีสัชนาลัย สุโขทัย วิ่งได้ 248.8480 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.234 กม./ชม.
อันดับ 2 ทีม “ผักกระเฉด@กบินทร์บุรี” หมายเลข 879 จาก วิทยาลัยการอาชีพ กบินทร์บุรี ปราจีนบุรี วิ่งได้ 220.6710 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.698 กม./ชม.
อันดับที่ 3 ทีม “ยอดดอย” หมายเลข 732 จาก วิทยาลัยเทคนิค ยอดดอย เชียงราย วิ่งได้ 209.4880 กม./ลิตร ความเร็วเฉลี่ย 31.295 กม./ชม.

รางวัลพัฒนาการยอดเยี่ยม รถประดิษฐ์ ระดับอาชีวะ
อันดับ 1 ทีม “I – SHI 2” หมายเลข 232 จาก วิทยาลัยเทคนิค สระบุรี
อันดับ 2 ทีม “I – SHI 3” หมายเลข 230 จาก วิทยาลัยเทคนิค สระบุรี
อันดับที่ 3 ทีม “ศรีวิชัย” หมายเลข 221 จาก วิทยาลัยเทคนิค สุราษฏร์ธานี

รางวัลพัฒนายอดเยี่ยม รถประดิษฐ์ ระดับอุดมศึกษา
อันดับ 1 ทีม “ME SAU 01” หมายเลข 510 จาก มหาวิทลัย เอเชียอาคเนย์
อันดับ 2 ทีม “กันเกรา” หมายเลข 533 จากมหาวิทยาลัย อุบลราชธานี
อันดับ 3 ทีม “GEAR UBU” หมายเลข 532 จากมหาวิทยาลัย อุบลราชธานี

รางวัลชนะเลิศ รถประดิษฐ์สวยงาม
อันดับ 1 ทีม “Chumphae technical college Prototype Econo” หมายเลข 182 จาก วิทยาลัยการอาชีพ ชุมแพ
อันดับ 2 ทีม “Kicec” หมายเลข 157 จาก วิทยาลัยการอาชีพ กาญจนบุรี​
อันดับ 3 ทีม “NMVC 3” หมายเลข 147 จาก วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทศบาล นครปฐม

รางวัล Popular Vote

อันดับ 1 ทีม “พิมายออโต้ 2” หมายเลข 314 จาก วิทยาลัยการอาชีพ พิมาย
อันดับ 2 ทีม “N-TECH CENTER” หมายเลข 127 จาก วิทยาลัยเทคโนโลยี เอ็นเทคอินเตอร์เนชั่นแนล
อันดับ 3 ทีม “Kicec” หมายเลข 157 จาก วิทยาลัยการอาชีพ กาญจนบุรี

สามารถติดตาม และชมภาพบรรยกาศการแข่งขันเพิ่มเติมได้ที่
www.hondaeconothai.com

#APHonda #APHondaforThaisociety #SoichiroHondaCup #HondaEcono2019