มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ( มรส.) ร่วมกับนักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่นที่ 9 (นสช.9) ของสถาบันการสร้างชาติ (NBI) เดินหน้าโครงการเยาวชนสร้างชาติ ให้แก่เยาวชน 8 จังหวัดภาคใต้ตอนบน โดยมีนักเรียนนักศึกษาจาก 350 สถานศึกษา กว่า 1,500 คนตบเท้าเข้าร่วมโครงการ พร้อมด้วยผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู อาจารย์ ร่วมรับฟังการบรรยายและร่วมกิจกรรมที่ให้ข้อคิดในการสร้างเยาวชนให้เป็น “คนดี เก่ง กล้า” เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการจัดตั้งชมรมเยาวชนสร้างชาติ ระหว่างวันที่ 30 มกราคม 2563 –1 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี โดยมี นายอนุชา บูรพชัยศรี ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 พร้อมด้วยนางแจ่มจิตร์ พูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความจำเป็นในการสร้างชาติ” และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏ สุราษฎร์ธานี ร่วมให้การต้อนรับ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยฯ มีพันธกิจด้านการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สำนึกในความเป็นไทย มีความรักและผูกพันต่อท้องถิ่น อีกทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชน เพื่อช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง และหนุนเสริมสร้าง “วิศวกรสังคม” ให้เป็นผู้ขับเคลื่อนความรู้ตามศาสตร์ต่างๆ นำมาเป็นกลไกที่จะพัฒนา ซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอของสังคม ได้สร้างสรรค์ให้ชุมชนเข้มแข็งดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ

รักษาราชการแทนอธิการบดี กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยฯ ได้สนับสนุนสถานที่พร้อมอำนวยความสะดวกทุกด้านของการจัดโครงการ อีกทั้ง ที่ตั้งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถือได้ว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่มีความเหมาะสมครบครัน และถึงแม้ในขณะนี้ มีข่าวแพร่ระบาดของโรคโคโรนา แต่ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีการเฝ้าระวังและตรวจเช็คสถานการณ์จากนักท่องเที่ยวและประชาชนในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง พบว่าจังหวัดสุราษฎร์ธานีปลอดเชื้อดังกล่าว และคณะจัดงานก็ดูแลเยาวชนผู้ร่วมค่ายเป็นอย่างดี

ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ กล่าวว่า “ค่ายเยาวชนสร้างชาติ จะฝึกให้เยาวชนมีความสำนึกในการใช้ชีวิตที่มีคุณค่าสูงสุด คำนึงถึงการทำประโยชน์ส่วนรวมอย่างเต็มศักยภาพ ส่งเสริมเยาวชนให้คิดวิเคราะห์ ทำวิจัย เพื่อนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในครอบครัว ในสถานศึกษาหรือแม้แต่ชุมชนของตนเอง” ซึ่งการสร้างคน เพื่อให้คนไปสร้างชาติ เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งและกลุ่มคนที่สำคัญมากที่สุดต่ออนาคตของชาติ คือ เยาวชน เนื่องจากเยาวชนวันนี้ คือผู้ใหญ่หรือพลเมืองของประเทศในอนาคต เราไม่อยากเป็นเพียงคนที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อให้เยาวชนไม่ได้รับการพัฒนา แต่เราอยากเป็นส่วนหนึ่งของคนที่ร่วมมือกับภาคส่วนอื่นสนับสนุนให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น เราจึงได้จัดทำโครงการเยาวชนสร้างชาติเพื่อจะสร้างเยาวชนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งด้านวิชาการ ด้านคุณธรรม การอยู่ในสังคม การเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ เราจึงจัดค่ายต่อเนื่องมาเป็นรุ่นที่ 8 เป็นการทำภารกิจตั้งชมรมเยาวชนให้ครบทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย”

สำหรับโครงการเยาวชนสร้างชาติ มีนักเรียน นักศึกษา จาก 8 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, พังงา, ชุมพร, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, ภูเก็ต, กระบี่ และนครศรีธรรมราช ภายในค่ายจะมีกิจกรรมต่างๆ หลายรูปแบบที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้ฝึกทักษะในการแลกเปลี่ยนความคิดร่วมพัฒนาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาประเทศ และกิจกรรมที่เป็นการฝึกฝนในการนำความรู้ที่ได้รับไปจัดตั้งชมรมเยาวชนสร้างชาติในสถานศึกษาของตนเพื่อส่งต่ออุดมการณ์ไปยังเพื่อนๆ ในการพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้เป็นคนดีเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน เป็นคนเก่งที่ใช้ศักยภาพอย่างเต็มความสามารถ และเป็นคนกล้าที่ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องในสังคม