เคลียร์ให้ชัดทุกประเด็น หลังจากปลดล็อคกัญชาในประเทศไทยครั้งแรก ไม่นานก็เกิดเอฟเฟกต์เมื่อผู้บริโภคได้รับอันตรายจากการใช้กัญชา ผู้ประกาศข่าว “บ๊อบ-ณัฐธีร์  โกศลพิศิษฐ์” จากรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) เปิดโต๊ะข่าวเชิญผู้คว่ำวอดวงการสมุนไพร ร่วมพูดคุยหาทางออก นำโดย รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมีอินทรีย์ ม.เกษตรศาสตร์ และ คุณยุทธพงศ์ อรรคเศรษฐัง ตัวแทนพรรคเขียว ผู้นิยมกัญชาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ถูกกฎหมาย แชร์มุมมองผลกระทบของกัญชา และวิธีใช้อย่างไรให้ปลอดภัย จากเคสล่าสุดพบหลายหลายมีผลข้างเคียงต้องเร่งรักษา ส่งตัวเข้าโรงพยาบาลจากการรับกัญชาเกินขนาด หลังร้านค้านำไปผสมในอาหาร 

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : ปัญหาที่เกิดขึ้นกับคนที่กินกัญชา บางคนก็มีผลกระทบ เช่น หญิงสาวรายหนึ่งที่เกิดอาการแพ้หลังรับประทานต้มมะระที่มีส่วนผสมของใบกัญชา ซึ่งยังคงมีอาการอย่างต่อเนื่อง อาจารย์อ๊อดมองเรื่องนี้อย่างไร? รศ.วีรชัย : กัญชาจะมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท คือ สาร THC ย่อมาจาก Tetrahydrocannabinol ซึ่งปัจจุบัน THC ยังเป็นสารเสพติดให้โทษประเภท 5 กฎกระทรวงสาธารณสุขล่าสุดที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการปลดล็อกกัญชาเสรี เป็นการเอาต้นกัญชา-กัญชง ออกจากบัญชียาเสพติด แต่ยังคงสาร THC ไว้ ถ้ามีสารTHC เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ หรือครอบครองเกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์ ก็จะมีความผิดในการครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : ถ้ามีกัญชาเยอะๆ แล้วไม่เกิน 0.2 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ถือว่าไม่ผิด?                  

รศ.วีรชัย : ไม่ผิดเพราะ 0.2 ถือว่าน้อยมาก พูดง่าย ๆ คือ เขาจะขังสาร THC ในกฎหมายเหมือนเดิม แต่ด้วยนโยบายต้นกัญชาเป็นเสรีสามารถปลูกได้ใช้ได้ แต่กัญชาก็ยังผลิตสาร THC ตราบใดที่สารTHC ยังอยู่ในดอก ในใบ ในต้น ในราก ก็ไม่มีความผิด เพราะว่ากฎหมายปลดล็อกไปแล้ว แต่ถ้าเราดึงสารหรือสกัดออกมาจะมีความผิด 1.ในการสกัดในการครอบครอง 2.ในการบริโภค ร่างกายคนที่บริโภคจะได้รับสาร THC เข้าไป เพราะฉะนั้นในเคสของคนที่รับประทานมะระ พูดง่าย ๆ คือ เขาไม่ได้ตั้งใจสกัด เพราะเขานำมาทำอาหาร ซึ่งในใบจะมีสาร THC อยู่ด้วย

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : Receptor คืออะไร? ในร่างกายคนเราต้องมี Receptor     

รศ.วีรชัย : คือตัวที่จะเข้าไปแล้วก็เกิดขบวนการเผาผลาญในร่างกายจะจัดการกับมันได้ คนที่มีตัวนี้ก็จะไม่มีปัญหา คนที่ไม่มีขบวนการเผาผลาญที่ดีพอก็จะส่งผลต่อระบบจิตประสาท จะเริ่มตั้งแต่ใจสั่น คอแห้ง ตาแดง ไปดาวอังคาร

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : ผมชอบที่อาจารย์อ๊อดเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ กัญชา-กัญชง มีสารCBD และ THC แต่กัญชง คือ ไม่ค่อยมีสาร THC แต่กัญชา มีทั้ง 2 สาร ถ้าพูดถึงการฟังเพลง อาจารย์อ๊อดจะเปรียบเทียบอย่างไร             

รศ.วีรชัย : คือกัญชาจะมี THC สูง ในกฎหมายไทยกัญชาคือจะต้องเกิน 1 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ถึงจะแยกว่าเป็นกัญชา แต่ถ้า THC ต่ำกว่า 1 เปอร์เซ็นต์จะเรียกว่าเป็นกัญชง ซึ่งสารที่อยู่ในกัญชงเรียกว่าสาร CBD โดย THC เพราะฉะนั้น 2 ชนิดเหมือนกัน ซึ่ง THC มีฤทธิ์ในการรักษา CBD ก็มีฤทธิ์ในการรักษาบำรุงสุขภาพทั้งคู่ แต่เผอิญ THC ทำให้เมา แต่ CBD จากกัญชงไม่ได้ทำให้เมา ถ้าเราดูกฎหมาย CBD จะเห็นว่าไม่ได้อยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5  ตามกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งสาร THC บางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ และเป็นสารที่ WHO (องค์การอนามัยโลก) ไม่ให้การรับรอง ส่งขายที่ไหนก็ไม่ได้ ต้องใช้ทางการแพทย์เท่านั้น ในเมืองไทยถ้าจะขายต้องขายให้กับโรงพยาบาล หรือหน่วยแพทย์เท่านั้น แต่ตอนนี้มันขายได้เสรี บางคนถ้าต้องการสาร THC ก็นำมาสูบ ถ้าคนที่ไม่คยลองเลยถ้าเกิดแพ้ก็จะเห็นตามข่าว อยู่ที่ว่าร่างกายใครทนได้มากน้อย เพราะฉะนั้นจึงเป็นช่องโหว่ทางกฎหมายที่คนจะเข้ามาใช้โดยที่ไม่มีการควบคุม                

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : เรามาฝั่งผู้ใช้งานตั้งแต่อดีต รู้ว่ามันผิดกฎหมายแต่ตอนนี้ปลดล็อกแล้ว ไม่ผิดกฎหมาย เพราะว่าเขาใช้ในเชิงสันทนาการ แต่ก็มีการใช้ในเชิงรักษาเหมือนกัน เริ่มที่การรักษาก่อน เห็นบอกว่าอยู่ในกลุ่มของอาจารย์ตู้ที่อยู่ในแวดวงนี้มา 7-8 ปีแล้ว แล้วใช้อย่างไรให้ปลอดภัย?                                           

ยุทธพงศ์ :  ถ้ากลุ่มสายเขียว จะรู้จักกับลุงตู้และน้าเดี่ยว พรรคเขียว จริง ๆ 2 คนนี้ก็เป็นคนบุกเบิกเรื่องการเอากัญชามาใช้ในทางการแพทย์ ล็อตแรกเราไม่ได้พูดถึงเรื่องสันทนาการเลย มันเป็นเรื่องใกล้ตัว ลุงตู้ใช้จากประสบการณ์ จากน้อยไปหามาก คือ เราไม่รู้ว่าตัวเราเองมี Receptor มากแค่ไหน ก็ใช้จากน้อยไปมากก่อน เพราะผมรู้ว่ามันมีตัวรับในร่างกายอยู่แล้ว เพราะว่าแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน อย่างสมมุติว่าผม ทำอาหาร 1 หม้อ ก็จะมีคนที่รู้สึกว่ากินแล้วง่วงนอน แต่อีกคนก็กินแล้วปกติ รู้สึกเฉย ๆ คือ Receptor แต่ละคนไม่เท่ากันเลย แต่ว่าวิธีการใช้ที่พวกเราส่งต่อกันมา คือ ใช้จากน้อยไปหามาก เริ่มกินจากปริมาณน้อย ๆ ก่อน ถ้าเราจะต้องออกไปข้างนอก หรือ ต้องไปทำงาน เราควรใช้มันอย่างเล็กน้อยที่สุด หรือ ไม่ใช้เลยก็ดี  

บ๊อบ-ณัฐธีร์ : แต่ในเคสที่มันเกิดขึ้น คือ เขาไม่รู้ว่าใส่ส่วนผสมของกัญชาหรือเปล่า แต่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าใส่มากใส่น้อยแค่ไหนอย่างไร ไม่รู้ว่ามันอันตรายมากน้อยอย่างไร?                                                  

ยุทธพงศ์ : ในมุมส่วนตัวของผมเอง ผมมองว่ากัญชามันคล้าย ๆ ทุเรียน คนชอบก็จะกินมาก ๆ  แต่คนไม่ชอบ ได้กลิ่นเขาก็ไม่อยากเอาเข้ารถ ไม่อยากเอาเข้าใกล้ตัวเอง มันก็คล้าย ๆ กัน ผมเชื่อว่า มีคนอยากลองกัญชาในจุดหนึ่ง แต่ผมเชื่อว่า ครั้งหนึ่งที่เขาเข้าไปกิน เหมือนเขาอยากลองทุเรียนแล้ววันหนึ่งเขารู้ว่าทุเรียนมันเหม็น ไม่อร่อย หลังจากนั้นเขาจะไม่เอาอีกเลย จริง ๆ ผมอยากพูดเรื่องเสรี ผมเองก็ชอบนะครับ แต่ว่าเราก็ยังไม่อยากได้ คือ เราอยากได้สันทนาการแบบที่มีกฎกติกา คือ เราอยากเสียภาษี เราอยากใช้มันอย่างถูกต้อง เราอยากใช้มันแบบที่ไม่อันตราย ไม่ต้องแอบใช้ แต่เพียงแต่มีโซน มีกฎกติกาแต่คำว่าเสรีที่คนเข้าใจกันส่วนใหญ่ คือ เหมือนพริกเหมือนกระเทียม ถือไปไหนก็ได้ ปลูกที่ไหนก็ได้ แบบนั้นผมว่า มันจะมีปัญหาตามมาทีหลัง ผมเป็นห่วงสำหรับวัยรุ่นมากกว่า เยาวชนจะเข้าถึงง่ายถ้าเกิดเราไม่แซนด์บ็อก หรือเซฟโซนอะไรเลย

ติดตามรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศ “บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศษฐ์” เจาะลึกกันแบบสด ๆ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง MONO29 หรือที่แอปพลิเคชัน MONO29 สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/0JnhDGRaPgc

#Mono29 #บ๊อบณัฐธีร์ #Thedaynewsupdatespecial #เจาะข่าวเด็ดสเปเชียล #พรรคเขียว #ปลดล็อกกัญชา