หลอกให้รัก ทำเจ็บใจหนักอาจมีโทษ ซึ่งตกเป็นเป้าประเด็นสังคมให้ถกเถียง สำหรับกรณี หลอกรักออนไลน์ ไม่ได้อยู่ในใจ แต่อาจไปอยู่ในคุก หลังผู้เสียหายออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมและเปิดใจ ว่าถูกชายวัย 60 ปี หลอกให้รักพร้อมกัน 15 คน  หวั่นภรรยาหลวงฟ้องต้องให้ทนายช่วยเหลือ  วันนี้เปิดโต๊ะถกประเด็นผ่านรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศข่าว “บ๊อบ-ณัฐธีร์  โกศลพิศิษฐ์” พร้อมด้วย คุณหนูยา ผู้เสียหาย , คุณรัชพล ศิริสาคร ทนายความ และ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากประชาชนไม่ให้หลงเชื่อการหลอกลวงออนไลน์ ไม่ว่าจะหลอกเพื่อหวังทรัพย์สิน หรือหลอกให้รัก 

บ๊อบ ณัฐธีร์ : ไปเริ่มพัวพันกับชายวัย 60 ปี คนนี้ได้อย่างไร?         

ผู้เสียหาย : ประมาณเดือนสิงหาคม 2564 เขาแอดมาขอเป็นเพื่อนทางเฟสบุ๊ค ช่วงแรกยังไม่ได้ทักอะไรเลย มาเริ่มทักอีกทีในช่วงเดือนกันยายน ก็เป็นการทักมาพูดคุยปกติ จากนั้นก็กดเข้าไปดูในโปรไฟล์เห็นเป็นคนภาคเดียวกันจึงถามว่าเป็นคนใต้รึเปล่า เขาก็ตอบว่าเป็นคนใต้ ส่วนใหญ่เขาเป็นคนเริ่มบทสนทนามาค่ะ เหมือนกับถามประมาณว่าอยู่ที่ไหน เหมือนกับเป็นคนรู้จักปกติ เป็นคนบ้านเดียวกัน             

บ๊อบ ณัฐธีร์ : อะไรที่ทำให้เราสานสัมพันธ์กัน เหมือนจะมีการนัดหมายกัน?        

 ผู้เสียหาย : พอคุยไปได้สักพักหนึ่ง เขาก็เริ่มจะพิมพ์มาว่าคิดถึง ฝันดีนะ และไปเอารูปเราจากเฟสบุ๊คมา และเอาเข้ามาส่งในช่องแชทว่าน่ารัก เราจึงได้ถามกลับไปตรง ๆ ว่าจีบหรอ? เขาจึงบอกว่าคุยประมาณนี้แล้ว ยังไม่รู้หรอว่าจีบ เราจึงบอกว่าเอางี้นะ โตแล้วไม่ใช่เด็ก ใช้สมองมากกว่าใจ ถ้าจะจีบขอความจริงใจไม่ใช่จะจีบเล่น ๆ ก็เป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกันดีกว่า เขาก็บอกว่าเอาจริง แล้วในเฟสบุ๊คเขาจะไม่ลงอะไรมากเลยที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว เขาลงสถานะโสด

บ๊อบ ณัฐธีร์ : อย่างที่เป็นข่าวมีเฟสบุ๊ค 8 แอคเคาท์ มีอินสตาแกรม 4 แอคเคาท์ มีไลน์ 3 แอคเคาท์ และมีโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง เคยถามเขาไหมว่าพี่ไม่วุ่นวายกับชีวิตหรือมีหลายแอคเคาท์แบบนี้?              

ผู้เสียหาย : : ตอนแรกก็ไม่ทราบค่ะ เพิ่งมาทราบตอนมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ได้คุยกับเขา และมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง จึงไปตรวจสอบว่าเป็นโสดจริงหรือไม่ ไปรื้อไปค้นมาจึงส่งข้อมูลมาหาพี่หนูยา คือของเราตอนนั้นเหมือนเป็นการพูดคุยกันปกติ  ยังมีระยะห่างอยู่ ยังไม่ทราบว่าเขามีภรรยา เพราะถามไปเขาก็บอกว่าเลิกมา 8 ปีแล้ว

บ๊อบ ณัฐธีร์ : พอรู้ว่าจับไต๋ได้ เป็นข่าวก็ยังไลน์คุยกับผู้เสียหายต่อด้วย ?                                       

 ผู้เสียหาย : เขาบอกว่าเลิกกันแล้วแต่ยังไม่ได้หย่า มีหลักฐานในไลน์ให้ทนายดูแล้วค่ะ เขาบอกว่า เขาไม่ต้องการให้ลูกขาดความอบอุ่น ลูกคนเล็กสุดอายุ 21 ปี เขาบอกว่าต้องการไม่ให้ลูกขาดความอบอุ่นเลยยังไม่หย่า แต่เลิกกันแล้ว         

 บ๊อบ ณัฐธีร์ : มีความหมายนัยยะทางกฎหมายอย่างไร ยังไม่หย่าแต่เลิกกันแล้ว?    

 ทนายรัชพล : มันต้องถามเขาว่าเขาให้คำนิยามอย่างไร ยังไม่หย่าแต่เลิกกันแล้ว คือ ยังไม่หย่าเลิกกันแล้วอยู่ด้วยกันก็ได้ หรือจะไม่อยู่ด้วยกันก็ได้ มันก็ตีความได้หลายความหมาย อาจจะต้องถามเขาลึก ๆ ว่าเขามีพฤติกรรมของเขายังไง 

บ๊อบ ณัฐธีร์ : ฟางเส้นสุดท้ายที่ได้ข้อมูลมา ว่าต้องดำเนินการเปิดโปง?            

 ผู้เสียหาย : หลังจากที่เราคุยกับเขา และบอกว่าพี่คบผู้หญิงหลายคน และพี่ก็มีภรรยาแล้ว แล้วพออีกวันหนึ่งก็มีผู้หญิงในกลุ่มนี่แหละ แต่ตอนนั้นเราก็ไม่ทราบว่าเป็นผู้หญิงใครนะคะ ทำเฟสบุ๊คขึ้นมาหนึ่งเฟส และมาขอเป็นเพื่อน ซึ่งเราก็คิดแล้วว่าน่าจะต้องเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เกี่ยวข้อง พอรับเป็นเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นก็เอารูปเขา รูปครอบครัวเขามาขึ้น และบอกว่าเตือนภัยผู้ชายคนนี้มีภรรยาแล้ว และหลอกจีบผู้หญิงทางโลกออนไลน์เยอะมาก ตัวผู้ชายเขาก็คิดว่าเป็นพี่ทำ         

บ๊อบ ณัฐธีร์ : จะไปแจ้งความกับสถานีตำรวจ เหตุการณ์แบบนี้ต้องไปแจ้งเพื่อเอาผิดอย่างไรครับ?      

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ : ปกติลักษณะนี้ไม่ค่อยมีมาแจ้งความ จะมีในกรณีถูกหลอก อาจจะใช้โปรไฟล์ปลอมและหลอกลวงเอาทรัพย์สิน ไม่ได้เปิดเผยความเป็นจริง แต่อันนี้เท่าที่ทราบในโซเชียลมีเดียของผู้ชายคนนี้ เขาก็ใช้ชื่อจริง หน้าจริง และมีการคบหากัน คือ หลอกลวงให้พึงพอใจซึ่งกันและกัน อาจจะยังไม่ชัดเจน                                                                  

 บ๊อบ ณัฐธีร์ : ต้องเข้าข่ายลักษณะไหน ถึงจะเอาผิดได้ 

 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ : ต้องเรียนกับประชาชนว่า การพูดคุยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเรื่องราวความรัก จริง ๆ ความรัก เป็นสิ่งสวยงาม แต่ก็อยากจะให้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ไม่ใช่ไปสร้างภาพอะไรต่าง ๆ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นห่วงประชาชน ได้เตือนภัย 5 ข้อว่า ถ้าไปจีบกันทางโซเชียลมีเดีย หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จริงใจต่อกันดีกว่า และเตือน 5 อย่างที่ไม่ควรทำ 1.หลอกว่ามีทรัพย์สินร่ำรวย เช่นการถ่ายรูปกับรถสปอร์ต บ้านหลังใหญ่ ๆ ซึ่งไม่ใช่ของเขาเลย และไปหลอกลวงอะไรต่าง ๆ  2.แอบอ้างอาชีพ เช่น ข้าราชการตำรวจ ทหาร เอาเครื่องแบบมาใส่ มีความผิดตามมา เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ต้องระมัดระวัง ถ้าทำไปถูกดำเนินคดีได้  3.แอบอ้างวุฒิการศึกษา บอกว่าตนเองเป็นด็อกเตอร์ จบปริญญาโท หรือเอาชุดนักศึกษามาหลอกลวง 4.อ้างว่าโสด ทั้งที่ความจริงมีคู่ชีวิตแล้ว และ 5.การตัดต่อภาพให้ดูดี ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมาย ไม่ควรทำให้เกินจริงจนเกินไป

ติดตามรายการ “เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศ “บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศษฐ์” เจาะลึกกันแบบสด ๆ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง MONO29 หรือที่แอปพลิเคชัน MONO29 สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/P0RZBPXxIsw

#Mono29 #บ๊อบณัฐธีร์ #Thedaynewsupdatespecial #เจาะข่าวเด็ดสเปเชียล #หลอกรักออนไลน์