กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนัง จ.กระบี่ เผย กรมพัฒนาฝีมือแรงงานแนะทำเสาตั้งกล่องรังผึ้ง ลดปัญหาแมลงรบกวน มีรายได้เพิ่มจากการทำเสารังผึ้งจำหน่ายและแปรรูปผลิตภัณฑ์ รับรายได้กว่าล้านบาทต่อปี

          นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนัง จ.กระบี่ เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งกรมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกระบี่ไปให้คำปรึกษา และพบว่ากลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนังประสบปัญหาการเลี้ยงผึ้ง มีแมลงรบกวนจนทำให้ผึ้งหนีออกจากรัง ส่งผลให้เกษตรกรได้ผลผลิตน้ำผึ้งไม่เต็มที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้คำแนะนำการทำเสาสำหรับตั้งกล่องเลี้ยงผึ้ง โดยมีตัวป้องกันมดและแมลงที่จะเดินไปตามเสาจนถึงกล่องรังผึ้ง จึงสามารถป้องกันแมลงรบกวนได้ ช่วยให้ผึ้งสามารถผลิตน้ำผึ้งได้ดีขึ้น อีกทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านไหนหนังได้ผลิตเสาตั้งกล่องรังผึ้งจำหน่ายอีกด้วย นอกจากนี้ คณะที่ปรึกษาได้แนะนำการนำน้ำผึ้งไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงการแปรรูปน้ำผึ้ง ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนังมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละกว่า 1,000,000 บาท การดำเนินงานดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลและนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพการผลิต เนื่องจากตัวแปรที่สำคัญของผลิตภาพการผลิต ได้แก่ แรงงาน และทุน มุ่งหวังให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ SME สามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืน

          นายสุธีร์ ปานขวัญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนัง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เล่าว่า สมาชิกในกลุ่มประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพหลัก และหาน้ำผึ้งจากธรรมชาติเป็นอาชีพเสริม จึงรวมตัวกันเพื่ออนุรักษ์ผึ้งในจังหวัดกระบี่ และนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่ายหรือแปรรูปเป็นรายได้ของชุมชน แต่ประสบปัญหาการบำรุงรักษาเสาปูนตั้งกล่องเลี้ยงผึ้ง เนื่องจากสมาชิกไม่มีทักษะในการซ่อมบำรุง ทำให้แม่พิมพ์ชำรุด และต้องจ้างช่างในการซ่อมบำรุง แม่พิมพ์สำหรับทำเสานั้น เดิมทำจากเหล็กจึงมีน้ำหนักมาก ต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการขนย้าย ปัญหาอีกด้านคือ ผึ้งถูกมดและแมลงรบกวน ส่งผลให้ผึ้งหนีออกจากรังไม่สามารถผลิตน้ำผึ้งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงให้คำแนะนำตั้งแต่การปรับแม่แบบทำเสาจากท่อเหล็กเปลี่ยนเป็นทำจากท่อ PVC มีน้ำหนักเบากว่าและสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น สามารถผลิตเสาตั้งกล่องรังผึ้งได้รวดเร็วขึ้นและมีปริมาณมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังลดปริมาณการใช้แรงงานในการขนย้ายแม่แบบอีกด้วย นอกจากนี้ ได้ปรับปรุงรูปแบบเสาปูนใหม่ด้วยการเพิ่มที่กั้นทางเดินของมดและแมลง ทำให้ผึ้งไม่ถูกรบกวน

          สำหรับในปี 2565 เจ้าหน้าที่ของสนพ.กระบี่ ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์และนำน้ำผึ้งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่น้ำผึ้ง โลชั่นทาผิวผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงผึ้งบ้านไหนหนังจึงมีรายได้ทั้งจากการจำหน่ายน้ำผึ้ง ผลิตเสาตั้งกล่องรังผึ้งจำหน่ายให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในจังหวัดกระบี่และจังหวัดใกล้เคียง และผลิตภัณฑ์แปรรูปโดยมีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม ทำให้มีรายได้รวมแล้วปีละกว่า 1 ล้านบาท

          “โครงการนี้ดีจริงๆ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ดีมาก เพราะหลายๆ เรื่องชาวบ้านไม่มีความรู้ความเข้าใจ เมื่อได้รับคำแนะนำแล้วสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงานได้จริง พวกเรามีรายได้เพิ่มขึ้นได้เพราะมีโครงการนี้ ขอขอบคุณครับ” นายสุธีร์กล่าว