วันที่ 15 สิงหาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าว แม่ช็อก ลูกสาวถูก ‘ขบวนการค้ามนุษย์’ หลอกทำงานเสียชีวิตที่ ‘ดูไบ’ว่า ทันทีที่ทราบข่าวในเรื่องนี้ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงกำชับให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบข้อมูลและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งในส่วนของกระทรวงแรงงานผมได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่กรุงอาบูดาบีประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ความช่วยเหลือในทันที

           นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากรายงานของนางปลิดา ร่วมคำ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2566 เวลา 16.59 น. ตามเวลาในยูเออี ฝ่ายแรงงานฯ ได้รับแจ้งประสานจากเครือข่ายคนไทยว่าได้รับการติดต่อจากเพื่อนของ “ปาล์ม” ผู้เสียชีวิตตามข่าวว่าได้อยู่กับ “ปาล์ม” ในร้านแห่งหนึ่งในเขต Mussafah เมืองอาบูดาบี จู่ๆ “ปาล์ม “ ก็ช็อกหายใจไม่ออก จนแน่นิ่งไป และมีรถพยาบาล ตำรวจมาที่ร้าน และได้นำ “ปาล์ม”ไปโรงพยาบาลไม่ทราบว่าอยู่โรงพยาบาลไหน ไม่มีข้อมูลญาติ หรือเพื่อนสนิท หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง คาดว่า “ปาล์ม”น่าจะเสียชีวิต อยากให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตทราบเรื่อง และฝ่ายแรงงาน ได้ประสานฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ทราบเรื่องแล้ว จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่าผู้เสียชีวิตชื่อ นางสาวชุติมันต์ บุญดี อายุ 35 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดระยอง เดินทางเข้าประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 ขณะนี้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้รับการติดต่อจากเพื่อนและครอบครัวของ น.ส.ชุติมันต์ แล้ว และได้แนะนำให้ครอบครัวติดต่อไปที่กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ (15 ส.ค.66) ซึ่งทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้ประสานกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ ทราบกรณีนี้แล้ว ทั้งนี้ จากการตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม พบว่า น.ส.ชุติมันต์ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 เมื่อปี 2563 ปัจจุบันมีเงินสะสมกรณีชราภาพอยู่ 33,600.26 บาท และจากการตรวจสอบของกรมการจัดหางานพบว่า ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ

           ด้าน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทย ผมได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดพร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่เสียชีวิตรายดังกล่าว ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจพร้อมแจ้งข้อมูลขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือให้ญาติทราบเพื่อดูแลอำนวยความสะดวกในการประสานกระทรวงการต่างประเทศว่าจะนำศพแรงงานกลับประเทศไทยอย่างไร นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมี 5 วิธี ได้แก่ กรมการจัดหางานจัดส่ง บริษัทจัดหางานจัดส่ง นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานต่างประเทศ นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ และคนหางานแจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง จึงขอแจ้งเตือนไปยังคนหางานที่ประสงค์เดินทางไปทำงานต่างประเทศไปทำงานด้วยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่าหลงเชื่อนายหน้า และขอให้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์การคุ้มครอง หากประสบอันตราย เสียชีวิต พิการ ทุพพลภาพ หรือประสบปัญหาในต่างประเทศ