
มหาวิทยาลัยรังสิต มอบรางวัลเชิดชูเกียรติบัณฑิตเหรียญทองสังคมธรรมาธิปไตย ประจำปี ๒๕๖๘ แก่บัณฑิตที่ทำกิจกรรมเพื่อส่วนรวม เป็นผู้ที่มีความดี ความงาม มีเป้าหมายเพื่อชีวิตที่ดีงาม พร้อมเป็นพลเมืองที่ดีตามแนวทางแห่งสังคมธรรมาธิปไตย ได้แก่ แพทย์หญิงศุภานัน เจนธีรวงศ์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ นางสาวกชกร ผ่องแผ้ว วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม นายณัฏฐกิตติ์ ทุ่ยอ้น วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ และนายณภัทร เส็งเกี้ยง วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ ในพิธีประสาทปริญญา ประจำปี ๒๕๖๘

แพทย์หญิงศุภานัน เจนธีรวงศ์ บัณฑิตวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า การทำกิจกรรมควบคู่กับการเรียนแพทย์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ตนเติบโตทั้งด้านทักษะการทำงานและพัฒนาด้านจิตใจอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การทำงานร่วมกับคนหลายกลุ่มในบทบาทนายกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์ฯ การประสานงานระดับประเทศ การจัดงานขนาดใหญ่ ไปจนถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มสุขภาพจิตที่มีผู้ใช้จำนวนมาก ประสบการณ์เหล่านี้ไม่เพียงเพิ่มพูนทักษะการทำงาน แต่ยังหล่อหลอมให้ตนเองเป็นคนที่ดีขึ้น รู้จักการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ บริหารเวลาและความกดดันได้ดีขึ้น มองปัญหาอย่างเป็นระบบ และสื่อสารกับคนต่างช่วงวัยด้วยความเคารพและเข้าใจ พร้อมเรียนรู้ภาวะผู้นำที่ต้องรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ท่ามกลางความกดดัน ทั้งหมดนี้ทำให้ตนเติบโตเป็นผู้ทำงานที่แข็งแรงขึ้น ดิฉันภาคภูมิใจและตระหนักถึงความรับผิดชอบที่จะสานต่อโอกาสอันทรงคุณค่านี้ ด้วยเกียรติของวิชาชีพแพทย์และม.รังสิต จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มความสามารถเพื่อให้ระบบสาธารณสุขและสังคมไทยพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยที่มอบโอกาสและสั่งสอนให้ไม่เพียงรู้ “วิชาการ” แต่ยังรู้ “วิชางาน” และ “วิชาคน” ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความหมาย ความเอื้อเฟื้อ การสนับสนุน และกำลังใจจากทุกคนที่ทำให้มายืนในจุดนี้ได้ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความกตัญญูและความมุ่งมั่นที่จะตอบแทนสังคมต่อไป

นางสาวกชกร ผ่องแผ้ว บัณฑิตวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตลอดเส้นทางการเป็นนักศึกษาวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ได้สั่งสมประสบการณ์ทำงานเพื่อสังคมทั้งในมหาวิทยาลัย ชุมชน และโครงการจิตอาสาหลากหลายพื้นที่ ควบคู่กับบทบาทผู้นำที่ต้องบริหารงานจริงและทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน ซึ่งหล่อหลอมทักษะภาวะผู้นำ การสื่อสาร และจิตสำนึกสาธารณะอย่างลึกซึ้ง ความมุ่งมั่นดังกล่าวนำไปสู่การได้รับ “รางวัลบัณฑิตเหรียญทองสังคมธรรมาธิปไตย” ในครั้งนี้ นับเป็นความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจ เพราะเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าความพยายามและความทุ่มเทตลอดหลายปีไม่สูญเปล่า ขอขอบคุณคณบดี อาจารย์ และทุกฝ่ายที่สนับสนุน จนทำให้เติบโตทั้งด้านความรู้ ความสามารถ และการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์

นายณัฏฐกิตติ์ ทุ่ยอ้น บัณฑิตสาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และซีรีส์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาในการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต เปรียบเหมือนกับภาพยนตร์หนึ่งเรื่องที่เล่าเรื่องราวชีวิตได้ทุกรูปแบบความบันเทิง เพราะการทำกิจกรรมเพื่อสังคม คือ การเรียนรู้ที่จะเข้าใจ เรียนรู้ที่จะมองเห็นกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ร่วมไปกับการพัฒนาศักยภาพของตนเอง นอกจากการมองเห็นกันและกันแล้วนั้น การรู้จักคุณค่า คุณธรรม และความดีในหัวใจนั้นเป็นเหมือนแรงขับเคลื่อนที่คอยผลักดันในวันที่หมดพลังกาย พลังใจ การเติมเต็มกันและกันจากการบริการสังคมจึงทำให้ได้ระลึกอยู่เสมอว่า “ประสบการณ์มิอาจใช่สิ่งที่เราจะนำไปสอนใครได้ แต่ประสบการณ์จะคอยหล่อหลอมให้เราเป็นแบบอย่างที่ดี และพร้อมสร้างโอกาส สร้างแรงบันดาลใจให้กับสังคมอยู่เสมอ” และการได้รับรางวัลนี้นับเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดและเป็นแรงผลักดันให้เดินหน้าพัฒนาตนเองพร้อมสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมอย่างสร้างสรรค์ต่อไป

นายณภัทร เส็งเกี้ยง บัณฑิตสาขาวิชาการสร้างสรรค์อิเวนต์เเละการประชาสัมพันธ์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยรังสิตคือ “บ้านหลังที่สอง” ที่หล่อหลอมให้เติบโตทั้งความคิด ประสบการณ์ และทักษะการทำงาน ผ่านการเรียนรู้ควบคู่กับการทำกิจกรรมตลอด 2 ปี จนนำไปสู่บทบาทนายกสโมสรนักศึกษาและประธานนักศึกษาทุนความสามารถพิเศษด้านศิลปวัฒนธรรมและพัฒนาสังคม ซึ่งเป็นโอกาสให้ได้ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงานและสร้างประโยชน์แก่ชุมชนอย่างลึกซึ้ง เมื่อทราบว่าได้รับรางวัลนี้รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค และปลื้มปิติที่ความพยายามตลอด 4 ปีส่งผลสำเร็จ ขอขอบคุณอาจารย์และทุกฝ่ายที่เป็นแรงผลักดันสำคัญ และให้คำมั่นว่าจะนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างประโยชน์แก่สังคม รวมถึงส่งกำลังใจให้ผู้ที่กำลังตามหาความฝันให้เชื่อมั่นว่าความตั้งใจและความหวังจะพาไปถึงเป้าหมายเสมอ
11 ธันวาคม 2568
ผู้ชม 30 ครั้ง