ผลงานวิจัย เรื่อง Competencies, Aptitude, Attitude, and Technical Skills Tests as Recruitment Assessment Tools : the  Case  Study of  BMW  Manufacturing (Thailand) Co., Ltd ผลงานของ นางสาวณัฐชนก  ผิวแดง นักศึกษาสาขาวิชาการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจโลจิสติกส์  วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ได้รับรางวัล ชมเชย ประเภทนวัตกรรม การประกวดผลงานสหกิจศึกษาดีเด่น มจพ. ประจำปี 2561 จัดโดยสถาบันสหกิจศึกษาและพัฒนาสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไทย-เยอรมัน (TGDE) เป็นงานวิจัยเชิงนวัตกรรมที่เป็นการพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคลากรที่มีทักษะ และสมรรถนะเหมาะสมกับงาน เพื่อพัฒนารูปแบบการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับลักษณะหน้าที่ของตำแหน่งงานโดยได้พัฒนาการออกแบบการทดสอบทักษะของผู้สมัครในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงจะช่วยลดปัจจัยซึ่งนำไปสู่การลาออกในภายหลัง

วัตถุประสงค์ของงานวิจัย งานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความสำคัญของการทดสอบสมรรถนะ ความถนัด ทัศนคติ และทักษะจำเป็นในการประกอบวิชาชีพ ในการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานและเพื่อเสนอกระบวนการที่สามารถนำไปปฏิบัติใช้ในองค์กร โดยนำการทดสอบดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคัดเลือกบุคลากร ณ บริษัทบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

ลักษณะเด่นของงาน  เป็นการพัฒนาระบบที่มีอยู่แล้ว เป็นปรับเปลี่ยนรูปแบบการสรรหา คัดเลือกบุคลากรให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมวิธีการของรูปแบบการคัดเลือกบุคลากรที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับลักษณะหน้าที่ของตำแหน่งงานมากยิ่งขึ้น ตามเงื่อนไขของบริษัท ด้านทรัพยากรบุคคล ที่ต้องการสรรหาและการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานเป็นงานที่มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร  เพื่อให้ได้บุคลากร ที่มีความเหมาะสมกับงานที่องค์กรต้องการมากที่สุดเข้ามาร่วมงาน  ผู้วิจัยได้เสนอให้มีลำดับขั้นตอนการทดสอบทักษะของผู้สมัครในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการคัดกรองหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่บริษัทต้องการ  และย่นระยะเวลาในการสัมภาษณ์ อีกทั้งผู้สมัครที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพื่อมาสัมภาษณ์นั้น  มั่นใจได้ว่าถูกทดสอบแน่ชัดแล้วว่ามีคุณสมบัติเพียงพอ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของงานวิจัยเชิงนวัตกรรมนี้เป็นการพัฒนาระบบที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

วิธีการดำเนินงาน

1. การจัดหมวดหมู่ ตำแหน่งหน้าที่ต่างๆในบริษัท เชื่อมโยงกับทักษะพื้นฐาน และทักษะเฉพาะด้านที่จำเป็นต่อตำแหน่งหน้าที่นั้นๆ
2. การกำหนดเกณฑ์การผ่านการคัดเลือกที่มีความแตกต่างกันตามตำแหน่งหน้าที่
3. การติดต่อซัพพลายเออร์ที่ให้บริการด้านแบบทดสอบการคัดเลือก
4. นำแนวความคิดและรูปแบบการดำเนินงาน เสนอต่อผู้บริหาร เพื่อพิจารณาการพัฒนาระบบต่อไปในอนาคต

ประโยชน์งานวิจัยเชิงนวัตกรรมนี้ เป็นการพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคลากรที่มีทักษะ และสมรรถนะเหมาะ

กับงาน สามารถนำไปใช้กับอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่มีลักษณะโครงสร้างองค์กรขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ซึ่งมีเงินทุนเพียงพอต่อการพัฒนาระบบ  และเล็งเห็นถึงความสำคัญในการคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถเพียงพอกับตำแหน่งหน้าที่ มีทัศนคติและบุคลิกภาพไปในทิศทางเดียวกันกับวัฒนธรรมองค์กร สามารถนำไปต่อยอด เพื่อพัฒนาเกณฑ์การทดสอบคัดเลือกบุคลากรให้เหมาะกับรูปแบบองค์กรที่แตกต่างกันไปตามแต่ความสำคัญของตำแหน่งหน้าที่  อีกทั้งช่วยให้การคัดเลือกได้มาตรฐาน ครอบคลุมกระบวนการคัดเลือก ซึ่งทางองค์กรใช้เพื่อคัดเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติงานและมีคุณลักษณะเหมาะสมกับงาน ตลอดจนเป็นเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม มีความเชื่อมั่นและเที่ยงตรงตามวัตถุประสงค์ของการคัดเลือกขององค์กร

สอบถามรายละเอียดได้ที่  ภาควิชาบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  โทรศัพท์ 02 555-2000 ต่อ 2811, 2812