เมื่อวานนี้(25 ตุลาคม 2561) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 45 พิเศษ โดยคณะวิทยากรจากหลักสูตรจิตอาสา 904 เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย”โดยมีพลตรี มโนช จันทร์คีรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และเปิดการบรรยายพิเศษ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร และนักศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 1 - 5 ศูนย์ฝึกค่ายวิภาวดีรังสิต จำนวนกว่า 4,000 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
สำหรับ คณะวิทยากรจากหลักสูตรจิตอาสา 904 สำเร็จการฝึกอบรมโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ “หลักสูตรหลักประจำ” รุ่นที่ 1/61 “เป็นเบ้า เป็นแม่พิมพ์” ดำเนินกิจกรรม โดยกองกิจการในพระองค์ฯ สำนักราชเลขานุการ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ซึ่งได้กำหนดให้ชุดวิทยากร จิตอาสา 904 เดินทางไปอบรมความรู้ในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 เป็นต้นมา
เนื้อหาสำคัญ กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ผู้ปิดทองหลังพระ ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัติรย์ของไทย ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยและความเสียสละของบูรพมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ประเภทของการทำจิตอาสา เครื่องแบบจิตอาสาพระราชทาน ความหมายของการทำจิตอาสา และการทำนุบำรุงบ้านเมืองด้วยกระบวนการจิตอาสา
ทั้งนี้ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเสาหลักให้กับชาติบ้านเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ จวบจนรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์จึงเป็นสัญลักษณ์ของการดำรงอยู่ของชาติไทย มายาวนานกว่า 700 ปี และเป็นสถาบันทางสังคมที่เข้มแข็งยืนยง ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาความเป็นไทย ภายใต้พระบรมโพธิสมภาร ตราบจนปัจจุบัน ธ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย และดำรงอยู่ภายใต้ทศพิศราชธรรม ทรงเป็นผู้นำการพัฒนาประเทศในทุกด้าน อันได้แก่ การปกครองประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงน้อมนำพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาไปสู่ความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” จนก่อให้เกิดเป็นพลังที่สำคัญยิ่งในการผลักดันให้ประเทศไทย ยืนหยัดอยู่ในสังคมแห่งอารยประเทศได้อย่างสง่างาม ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้นำความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมในครั้งนี้ ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ตลอดจนใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไทยและพอเพียง มีความรักความศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์ มีจิตใจที่ตั้งมั่นอยู่ในการช่วยเหลือผู้อื่น เป็นที่พึ่งของสังคม ส่งผลให้ประเทศชาติเกิดสันติสุขอย่างแท้จริง
30 ตุลาคม 2561
ผู้ชม 643 ครั้ง