นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผุดไอเดียแคมเปญ “ MSU Save Speed Safe Life” ตั้งเป้าผู้ใช้ถนนขับขี่รถไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตมหาวิทยาลัยและชุมชน
ที่บริเวณหน้าอาคารบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นิสิตภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกันคิดแคมเปญ จัดโครงการ MSU Save Speed Safe Life โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมร่วมในกิจกรรมเปิดเส้นทาง MSU Save Speed Safe Lifeร ณรงค์ให้นิสิต รวมถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน บนเส้นทางในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขับขี่ในอัตราที่ความเร็วกำหนด หรือขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นายสุรเชษฐ์ ศรีลามาตย์ นิสิตคณะวิทยาการสารสนเทศ ผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า กิจกรรมเปิดเส้นทาง MSU Save Speed Safe Life ในครั้งนี้ เป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยนิสิตภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ ภายใต้โครงการ Toyota Campus Challenge 2018 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทยจำกัด โดยแผนกิจกรรมดังกล่าวได้ผ่านการคัดเลือกเป็น 10 ทีมสุดท้ายจากผู้ส่งแผนงานเข้าประกวดจำนวน 679 แผนงานจากทั่วมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
เนื่องจากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นพบว่าระหว่างเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2561 ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ในมหาวิทยาลัยมหาสารคามจำนวน 118 ครั้ง ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการขับขี่ด้วยความเร็ว ซึ่งตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 67 ระบุว่าผู้ขับขี่ต้องขับรถตามป้ายเครื่องหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 67 ระบุว่าผู้ขับขี่ต้องขับรถตามป้ายเครื่องหมายจราจรที่กำหนดไว้ในที่ชุมชน บริเวณโรงเรียน มหาวิทยาลัยหรือเขตเทศบาล ไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โดยนิสิต ได้ร่วมกันคิดแคมเปญ “Save speed Safe life” ขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาการขับขี่ด้วยความเร็วเกินอัตราที่กำหนด โดยนำ “น้องชูโล่” มาติดตั้งเพื่อให้รถชะลอความเร็ว และเป็นเครื่องมือสื่อสารเพื่อรณรงค์ให้นิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคามขับขี่ในอัตราที่ความเร็วกำหนด นอกจากนั้นยังได้ทำการสื่อสารรณรงค์ให้นิสิตรวมถึงประชาชนผู้ใช้รถในเส้นทางดังกล่าว ขับขี่ด้วยความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งจากสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย สถานีตำรวจภูธรเขวาใหญ่ เทศบาลตำบลขามเรียง เทศบาลตำบลท่าขอนยาง บริษัทโตโยต้า มหาสารคาม ที่พร้อมจะขับเคลื่อนให้เกิดสังคมคนขับรถดีและสามารถขยายผลไปในเส้นทางอื่นที่ประสบปัญหาในรูปแบบเดียวกัน
30 พฤศจิกายน 2561
ผู้ชม 517 ครั้ง