28 พฤศจิกายน 2567

ข่าวประกาศ

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รับสมัครบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2565 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565 กรมทางหลวง รับสมัครเข้ารับราชการ จำนวน 6 ตำแหน่ง สมัครตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2565 กรมสรรพสามิต รับสมัครบุคคล (คนพิการ) เป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565

ดูบทความ  สกศ.ลงพื้นที่ดูงาน รร.บ้านแสนสุข จ.สระแก้ว สร้างความเสมอภาค-ความเท่าเทียมทางการศึกษา

  สกศ.ลงพื้นที่ดูงาน รร.บ้านแสนสุข จ.สระแก้ว สร้างความเสมอภาค-ความเท่าเทียมทางการศึกษา

หมวดหมู่: การศึกษา

 

สกศ.ลงพื้นที่ดูงาน รร.บ้านแสนสุข จ.สระแก้ว

 

สร้างความเสมอภาค-ความเท่าเทียมทางการศึกษา

 

 

พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากจะเป็นพื้นที่ที่มีความสําคัญทางเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวและความมั่นคงแล้ว ยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีความสําคัญทางสังคมและวัฒนธรรมด้วย บริเวณดังกล่าวเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ทางปัญญาของชาวกัมพูชาที่เข้ามาศึกษาหาความรู้ในระบบการศึกษาของไทย 

 

 

 

 

 

เช้าวันที่ 12 กันยายน 2562  ณ โรงเรียนบ้านแสนสุข ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ นายณรงค์ ดูดิง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และคณะกรรมการสภาการศึกษา พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน ศึกษาดูงานเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษาให้กับกรรมการสภาการศึกษา จังหวัดสระแก้ว โดยมี นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข คณะครูและนักเรียน ให้การต้อนรับ

 

 

 

 

ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ. ) กล่าวว่า  สำหรับการศึกษาดูงานวิถีชีวิตการเดินทางข้ามพรมแดนของเด็กกัมพูชาเข้ามาเรียนในประเทศไทย ลักษณะเช้ามา เย็นกลับของโรงเรียนบ้านแสนสุข  ในแง่ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ถ้ามองเรื่องวิธีการบริหารจัดการ คงจะกลับไปเรื่องของปัญหา เพราะว่า ในการบริหารจัดการ งบประมาณ ต้องลงในกลุ่มของประชากรไทย แต่ในแง่ของโรงเรียนบ้านแสนสุขตั้งอยู่แทบจะสุดขอบชายแดน เดิมโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก สิ่งที่เกิดขึ้นมีเด็ก ๆ โดยรอบแต่ไม่ได้เรียนที่นี่ ไปเรียนที่โรงเรียนแห่งอื่นที่มีระยะทางห่างไกลออกไป  อาจเป็นเรื่องของคุณภาพการศึกษาที่โรงเรียนอื่นน่าจะดีกว่า สิ่งที่มีการปรับเปลี่ยนที่นี่คือผู้บริหารใช้วิธีการที่จะทำอย่างไรให้มีผู้เรียนมากขึ้น นั่นคือ การให้บริการแก่เด็กสัญชาติกัมพูชา ซึ่งใช้เวลาเดินทางมาเรียนจากเขตชายแดนเข้ามาฝั่งไทย ประมาณ 10 นาที  ฉะนั้น  การเดินทางของเด็กไม่ใช่เรื่องลำบาก

 

 

 

 

สิ่งที่เป็นแรงจูงใจให้กับประชากรในกัมพูชาในแถบใกล้เคียงที่จะส่งลูกให้เข้ามาเรียนในพื้นที่ของประเทศไทย คือ ในเรื่องของสวัสดิการของรัฐ เด็กไทยทุกคนต้องได้เรียนถึง ม.3 เด็กฝั่งกัมพูชาที่ข้ามมาเรียนก็ต้องได้ สิทธิต่าง ๆ เหมือนเด็กไทยทุกคน เช่น  ชุดนักเรียน แบบเรียน กระเป๋าเรียน  อาหารกลางวัน สวัสดิการ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงจูงใจ นอกเหนือจากความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ถ้าเรียนอยู่ในกัมพูชา  เขาต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ถ้าข้ามมาเรียนที่ฝั่งไทยเขาจะได้รับสิทธิประโยชน์เทียมเท่าเด็กไทย 

 

 

 

 

 

 

 

 

และสิ่งที่มีความพิเศษ คือ มีการจัดหารายได้ของโรงเรียน โดยนักเรียนมีส่วนในการหารายได้ จะเห็นว่า มีการเลี้ยงไก่ปลูกผัก  จับปลา เป็นทั้งการเรียนการสอน การฝึกอาชีพให้แก่นักเรียนโดยหลาย ๆ ทางประกอบกัน แต่รายได้เหล่านี้ย้อนกลับไปที่นักเรียน  โดยมีการเลี้ยงข้าวเช้าให้แก่เด็ก  ๆ  ฉะนั้น การมีสวัสดิการหลาย ๆ อย่าง ทั้งเด็กไทยกับเด็กกัมพูชาจะได้เหมือน ๆ กัน ทำให้คนที่อยู่ฝั่งกัมพูชานิยมที่จะส่งบุตรหลานมาเรียนในไทย

 

เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในเรื่องคุณภาพการศึกษาโรงเรียนบ้านแสนสุข พยายามที่จะจ้างครูหลาย ๆ  ภาษามาสอนนักเรียน เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากโรงเรียนอื่น สิ่งที่ย้อนกลับมา คือ ชาวบ้านที่เคยส่งลูกไปเรียนที่อื่น  พอมีเด็กรุ่นใหม่  ๆ  เกิดขึ้นเขาก็จะส่งกลับมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยอัตราส่วนที่เด็กกัมพูชามาเรียนในไทย 60 เปอร์เซ็นต์ และ 40 เปอร์เซ็นต์ คือเด็กไทย  ซึ่งแนวโน้มเด็กไทยจะมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ   ในระดับชั้นอนุบาล 1- 3 และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 2   เนื่องจาก โรงเรียนได้รับความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อผู้ปกครองมากขึ้น

 

 

 

นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข  กล่าวว่า รงเรียนบ้านแสนสุข จัดการศึกษาให้กับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล-ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ส่งเสริมให้นักเรียนได้รับการพัฒนาด้านการอ่าน การเขียนตามเกณฑ์มาตรฐานการเรียนรู้ ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ มีทักษะพื้นฐานด้านการสื่อสาร และมีทักษะในการทำงานและประกอบอาชีพ ปัจจุบันมีครูรวมทั้งหมด 8 คนและนักเรียนทั้งหมด 128 คน  

 

 

 

 

 

 

สิ่งที่คุณครูอยากให้นักเรียนได้รับ อาจจะไม่ใช่เป้าหมายที่มองเห็น โดยมุ่งส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้  มีคุณธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลาง มีคุณลักษณะความเป็นไทยในตัวเด็กนักเรียน คือ ยิ้มง่าย ไหว้งาม พัฒนาไปสู่มาตรฐานการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี มีความพอเพียง และเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งในการสร้างงานสร้างความสำเร็จทุกครั้งที่เริ่มทำงานของโรงเรียนบ้านแสนสุข เรามั่นใจได้อย่างแน่นอนว่า เด็กของเราได้รับประสบการณ์ที่เราหวังอยากให้เกิดกับเด็กอย่างแท้จริง

 

 

 

สอ.สนธยา เชื้อชาติ  ผบ.ชุดปฏิบัติการ กรม ท.พ.12  บอกว่า การที่ทหารมาปฏิบัติการเป็นความร่วมมือในการดูแลเด็กแนวตะเข็บชายแดน ทหารมีหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกดูแลความเรียบร้อยในการเดินทางข้ามฝั่งของเด็กนักเรียนกัมพูชา  พ่อแม่มาส่งแค่ฝั่งกัมพูชาคือ ทางขึ้นสะพานเท่านั้น เด็กนักเรียนก็จะเดินและปั่นจักรยานเข้ามาที่ฝั่งไทย  มีบางส่วนนั่งรถรับส่งของโรงเรียน ในวันหนึ่ง ๆ มีเด็กนักเรียนเดินทางเข้ามาวันละประมาณ 60 คน (มาเช้าเย็นกลับ)  เริ่มมาตั้งแต่ 6.30 น.และจะมีการปั่นจักรยานและเดินทางกลับเมื่อเลิกเรียน

 

 

 

 

นายณรงค์ ดูดิง ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านแสนสุขว่า ในการดูพื้นที่ที่โรงเรียนบ้านแสนสุข มีเด็กกัมพูชาเข้ามาเรียนมากกว่าเด็กไทย ประมาณ 60 คน จะเห็นได้ว่า วงการศึกษาของไทย ครูมีความรักเด็กไม่เลือกปฏิบัติ  แม้ต่างสัญชาติก็ตาม เด็ก ๆ กัมพูชา เหล่านั้น จึงมีโอกาสทางการศึกษาอย่างแท้จริง  อีกทั้ง ทางโรงเรียนได้ใช้ศาสตร์พระราชาในการนำโรงเรียน และผู้บริหารโรงเรียน มีความสามารถเฉพาะตัวที่สามารถหางบประมาณจากภายนอก จากเอกชน ผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ระดมทุนมาสร้างอาคารเรียน สร้างบ้านพักครู และกำลังสร้างพิพิธภัณฑ์แหล่งเรียนรู้ รวมถึงการสอนทักษะอาชีพที่หลากหลายอาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ สิ่งนี้เราพบว่า ผู้บริหารโรงเรียนนั้น ถ้ามีความจริงจังและมีความสามารถก็จะสามารถพัฒนาโรงเรียนของเขาได้ โดยไม่จำเป็นต้องรองบประมาณจากทางรัฐบาล ขอชื่นชมผู้บริหารโรงเรียนตามแนวชายแดนที่อยู่ห่างไกลความเจริญต่างดิ้นรน เพื่อให้รอดจากการถูกยุบของโรงเรียนดังกล่าว

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า เด็กกัมพูชานิยมมาเรียนในฝั่งไทย เพราะ หากจบการศึกษาไปส่วนใหญ่ก็จะกลับมาทำงานในไทย สิ่งที่มองเห็นคือ เนื่องจากไม่ใช่การศึกษาภาคบังคับ มาเรียนในไทยแล้วก็ออกกลางคันมากพอควร  ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่พ่อแม่ชาวกัมพูชาอยากให้ลูกมาเรียนในฝั่งไทย เพราะ จะได้ประโยชน์ ได้ทำงานยกฐานะทางเศรษฐกิจ ยกฐานะทางครอบครัว แม้ว่าโรงเรียนของกัมพูชาจะห่างจากโรงเรียนบ้านแสนสุขไปประมาณ  5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่พ่อแม่ฝั่งกัมพูชาก็นิยมส่งลูกหลานมาเรียนในไทย  เพราะ “ เรียนภาษาเขมรได้ภาษาเขมร ไม่ได้ภาษาไทย” และเชื่อมั่นในคุณภาพการศึกษาไทย  ที่สำคัญ ในเรื่องสวัสดิการ ค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ฟรีทุกรายการเทียบเท่าเด็กไทย 

 

 

 

 

 

ดวงกมล อุรัสยะนันทน์ 

รายงาน

15 กันยายน 2562

ผู้ชม 1241 ครั้ง

Engine by shopup.com