29 พฤศจิกายน 2567

ข่าวประกาศ

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รับสมัครบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2565 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565 กรมทางหลวง รับสมัครเข้ารับราชการ จำนวน 6 ตำแหน่ง สมัครตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2565 กรมสรรพสามิต รับสมัครบุคคล (คนพิการ) เป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565

ดูบทความกระทรวงแรงงาน แนะนายจ้าง/สถานประกอบการ ดำเนินการตามมติครม. 13 ก.ค. 64 เพื่อแรงงานต่างด้าวอยู่และทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย

กระทรวงแรงงาน แนะนายจ้าง/สถานประกอบการ ดำเนินการตามมติครม. 13 ก.ค. 64 เพื่อแรงงานต่างด้าวอยู่และทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย

หมวดหมู่: แรงงาน

 

 

 

 

รมว.แรงงาน เผยแนวทางการดำเนินการตามมติครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 เตือนนายจ้าง/สถานประกอบการ วางแผนดำเนินการภายในกำหนด หลีกเลี่ยงการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ย้ำมีผลบังคับใช้แล้ว หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงแรงงาน และประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงแรงงาน 4 ฉบับ พร้อมกับประกาศกระทรวงมหาดไทย 4 ฉบับ ที่มีผลบังคับใช้ทันที โดยประกาศดังกล่าวกล่าวถึงแนวทางการดำเนินการของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ กลุ่มมติครม.วันที่ 20 ส.ค. 62 กลุ่มมติครม.วันที่ 4 ส.ค. 63 กลุ่มมติครม.วันที่ 10 พ.ย. 63 และกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย เพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดให้แล้วเสร็จ รวมทั้งขยายระยะเวลาการหานายจ้างรายใหม่ของแรงงานต่างด้าวจาก 30 วัน เป็น 60 วัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน บัญชาให้กระทรวงแรงงานบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว โดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคมโดยรวมของประเทศ และความสำคัญของกำลังแรงงานอันเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการฟื้นฟูประเทศทั้งภาวการณ์ปัจจุบันและภายหลังหากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย โดยนายจ้าง/สถานประกอบการและแรงงานต่างด้าวเอง จำต้องรู้บทบาท หน้าที่ และขั้นตอนปฏิบัติที่ต้องดำเนินการเพื่อให้คนต่างด้าวได้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนได้รับการคุ้มครองตามสิทธิต่างๆ ที่พึงมี ซึ่งประกอบด้วย การยื่นขอใบอนุญาตทำงาน การตรวจและทำประกันสุขภาพ และการขออยู่ในราชอาณาจักร โดยแรงงานต่างด้าวตามมติครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ทั้งหมดจะต้องขอใบอนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตทำงานเดิมหมดอายุ และขออยู่ในราชอาณาจักร ตรวจและทำประกันสุขภาพ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่าขอให้นายจ้าง/สถานประกอบการ บริหารจัดการเวลาในการดำเนินการในขั้นตอนต่างๆให้ดี และติดตามข่าวสารจากรมการจัดหางานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งนอกจากทำให้ใช้แรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายไม่ต้องหลบซ่อนแล้ว ยังทำให้แรงงานต่างด้าวในความดูแลของท่าน ได้รับการดูแลตามกฎหมาย และการรักษาพยาบาลตามสิทธิที่พึงมี โดยขอสรุปขั้นตอนการดำเนินการ ระยะเวลา และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน โดยแยกตามกลุ่มมติต่างๆ ดังนี้

 

1.กลุ่มคนต่างด้าวตามมติครม.เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 62

ขออนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตทำงานเดิมหมดอายุ ภายใน 30 ก.ย. 64 หรือ 31 มี.ค. 65 แล้วแต่กรณีของระยะเวลาการอนุญาตทำงานเดิม และขอตรวจอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร รวมทั้งขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางฉบับใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 ส.ค. 65 เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทย ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66

- กรณีใบอนุญาตทำงานหมดอายุ วันที่ 30 ก.ย. 64 ชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ 100 บาท ใบอนุญาตทำงาน 1,350 บาท รวม 1,450 บาท

- กรณีใบอนุญาตทำงานหมดอายุ วันที่ 31 มี.ค. 65 ชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ 100 บาท ใบอนุญาตทำงาน 900 บาท รวม 1,000 บาท

 

2. กลุ่มคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63

- คนต่างด้าวที่ถือบัตรชมพู ที่ใบอนุญาตทำงานด้านหลังบัตรหมดอายุวันที่ 31 มี.ค. 65 หากประสงค์ทำงานต่อไปต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตทำงานสิ้นอายุ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ 100 บาท ใบอนุญาตทำงาน 900 บาท รวม 1,000 บาท และขอตรวจอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร ภายใน 1 ส.ค. 65

- คนต่างด้าวที่ถือใบรับคำขอ (บต.23) ต้องตรวจและทำประกันสุขภาพ จัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยให้แล้วเสร็จจนได้บัตรชมพู ภายในวันที่ 31 มี.ค. 65 หากประสงค์จะทำงานต่อไปให้ดำเนินการเช่นเดียวกับคนต่างด้าวที่ถือบัตรชมพู ที่ใบอนุญาตทำงานด้านหลังบัตรหมดอายุวันที่ 31 มี.ค. 65 รวมทั้งขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางฉบับใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 ส.ค. 65 เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทย ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66

 

3. กลุ่มคนต่างด้าวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 63

ขออนุญาตทำงานก่อนใบอนุญาตทำงานเดิมหมดอายุหรือภายในระยะเวลาที่กำหนดพร้อมชำระค่าธรรมเนียมยื่นคำขอ 100 บาท ใบอนุญาตทำงาน 1,800 บาท รวม 1,900 บาท ตรวจและทำประกันสุขภาพ ขอตรวจอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร รวมทั้งขอหนังสือเดินทางใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 ส.ค. 65 เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากการอนุญาตทำงานเดิมสิ้นสุด

 

4. กลุ่มคนต่างด้าวเข้ามาตาม MoU ที่วาระการจ้างงานครบ 2 ปี ให้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ โดยครม.มีมติ ขยายเวลาดำเนินการเพิ่ม 6 เดือน นับแต่ประกาศกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องมีผลบังคับใช้ เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับจากการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด

 

5. กลุ่มคนต่างด้าว 3 สัญชาติที่เข้ามาทำงานตาม MoU คนต่างด้าวตามมติครม.เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 62 และคนต่างด้าวตามมติครม.เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 63 ซึ่งใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวสิ้นสุดลงโดยผลของกฎหมาย อาทิ ไม่สามารถหานายจ้างรายใหม่ทันภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 จนถึงวันที่ 3 ส.ค. 64

นายจ้างต้องยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวและชำระค่าธรรมเนียม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป – 1 ธ.ค. 64 ตรวจและทำประกันสุขภาพ ขอตรวจอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักร รวมทั้งขอหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางฉบับใหม่กรณีเอกสารเดิมหมดอายุ ภายใน 1 ส.ค. 65 เพื่อได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในประเทศไทย ไม่เกินวันที่ 13 ก.พ. 66

นอกจากนี้คนต่างด้าวที่เปลี่ยนนายจ้างเมื่อเลิกทำงานกับนายจ้างรายเดิมแล้ว ต้องทำงานกับนายจ้างใหม่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เลิกทำงานกับนายจ้างรายเดิม ทั้งนี้การอนุญาตทำงานเท่าสิทธิเดิมคือวันที่ 13 ก.พ. 66

“กรณีที่หนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางของคนต่างด้าวสิ้นอายุ ให้คนต่างด้าวดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งเอกสารดังกล่าวภายในวันที่ 1 ส.ค. 65 ในส่วนของการออกเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) ทางการเมียนมาจะออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) ให้ โดยตั้งศูนย์บริการ จำนวน 5 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดระนอง จังหวัดชลบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ สำหรับคนต่างด้าวสัญชาติลาว และกัมพูชาสามารถขอเอกสารดังกล่าวได้ที่สถานเอกอัครราชทูตตามสัญชาติของตนที่ประจำอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการโดยเร็วเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หรือสามารถดำเนินการได้ ในส่วนแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในกิจการที่อยู่ในระบบประกันสังคม ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตน ระหว่างเข้าสู่ระบบประกันสังคมและยังไม่เกิดสิทธิ ต้องซื้อประกันสุขภาพตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัย เป็นระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งรวมการประกันโรคโควิด-19 โดยอัตราเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันภัย กรณีแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในกิจการที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคมต้องซื้อประกันสุขภาพตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หากเคยซื้อประกันสุขภาพแล้วไม่ต้องซื้ออีกโดยให้ใช้สำเนาบัตรประกันสุขภาพเดิม

สำหรับนายจ้าง/สถานประกอบการ และคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือที่ไลน์ @Service_Workpermit และสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร.1694 ซึ่งมีการจัดล่ามในภาษากัมพูชา เมียนมา และอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และแนะนำ” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

 

 

25 สิงหาคม 2564

ผู้ชม 467 ครั้ง

Engine by shopup.com