นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวเตือนนายจ้างแจ้งขึ้นทะเบียนและแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนด ทำให้ข้อมูลผู้ประกันตนซึ่งเป็นข้อมูลหลักในระบบฐานทะเบียนที่ใช้ปฏิบัติงาน ไม่ถูกต้องเป็นปัจจุบัน ส่งผลกระทบให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนล่าช้า หรือได้รับประโยชน์ทดแทนเกินสิทธิสำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลเกินจริง สำนักงานประกันสังคมได้มีแนวทางมาตรการเข้มงวดกับนายจ้าง โดยออกหนังสือเชิญพบเพื่อชี้แจง ให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด หากพบนายจ้างมีเจตนายังหลีกเลี่ยง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอความร่วมมือให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายให้ถูกต้อง กรณีนายจ้างที่มีลูกจ้างในสถานประกอบการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน (สปส.1-03) โดยนายจ้างที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นแบบได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำหรับนายจ้าง ที่มีสำนักงานใหญ่ในส่วนภูมิภาค ให้ยื่นแบบขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด/สาขา ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ นายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตนภายใน 30 วัน นับจากวันที่รับลูกจ้างเข้าทำงาน กรณีที่มีลูกจ้างลาออกจากงานให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09) พร้อมระบุสาเหตุการออกจากงาน หรือกรณีที่ผู้ประกันตนเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ให้นายจ้างยื่นแบบแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงผู้ประกันตน (สปส.6-10) ภายในวันที่ 15 นับถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริง ทั้งนี้ นายจ้างสามารถทำธุรกรรม งานทะเบียนผู้ประกันตนผ่านระบบ e-service ได้ที่ www.sso.go.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ จังหวัด/สาขา หรือที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
13 กันยายน 2565
ผู้ชม 706 ครั้ง