นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อให้ครอบคลุม การดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของแรงงานทุกกลุ่มทุกวัย กระทรวงแรงงาน โดย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายมุ่งเน้นการทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการสาธารณสุขและสุขภาพของผู้ประกันตน โดยพัฒนาระบบประกันสุขภาพ จัดบริการการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและเท่าเทียมกัน และในปี 2566 นี้ รัฐบาล และรมต.แรงงาน ได้มอบของขวัญชิ้นสำคัญ เพื่อดูแลสุขภาพพี่น้อง ผู้ประกันตน ให้ได้รับการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล ทำให้แรงงานในระบบมั่นใจว่าเมื่อยามเจ็บป่วยจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ โดยให้สำนักงานประกันสังคมจัดทำ “โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ” ประจำปี 2566 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะและนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย และศึกษาความเป็นไปได้การพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุก และระบบด้านการจัดบริการและการป้องกันโรค
นายบุญสงค์ฯ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า โดยในวันนี้ (9 มกราคม 2566) สำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมมือกับสถานประกอบการ และสถานพยาบาลในพื้นที่ เริ่มดำเนิน “โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ” เพื่อค้นหาความเสี่ยงหลอดเลือดและหัวใจ นำร่องพร้อมกันใน 7 จังหวัด ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนนทบุรี ร่วมมือกับโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ เข้าให้บริการตรวจค้นหาความเสี่ยงฯ ให้ผู้ประกันตน ณ บริษัทสักทอง (ไทย) จำกัด, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมมือกับโรงพยาบาลศิครินทร์ สมุทรปราการ เข้าให้บริการฯ ณ บจก.ไทยเม็ททอล อลูมิเนียม และบจก.อินโนเวชั่น, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดระยอง ร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬารัตน์ระยอง เข้าให้บริการฯ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมมือกับโรงพยาบาลการุญเวชอยุธยา เข้าให้บริการฯ ณ บริษัท ฮัทชินสัน เทคโนโลยี โอเปอเรชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แมกเนคอมพ์ พรีชิชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน), สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมมือกับโรงพยาบาลวิชัยเวช อินเตอร์ เนชั่นแนล สมุทรสาคร เข้าให้บริการฯ ณ บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) และร่วมมือกับโรงพยาบาล ศิครินทร์ สมุทรปราการ ให้บริการฯ ที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดปทุมธานี ร่วมมือกับโรงพยาบาลการุณเวช ปทุมธานี ให้บริการฯ ณ บริษัท ปฐวิน จำกัด, สำนักงานประกันสังคมจังหวัดชลบุรี ร่วมมือกับโรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร ให้บริการฯ ณ บจก.แวนด้าแพค และร่วมมือกับโรงพยาบาลวิภารามแหลมฉบัง ให้บริการฯ ณ บจก.เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัท เกียรติผล จำกัด (มหาชน) ผู้ประกันตนในสถานประกอบการดังกล่าว จะได้รับการตรวจสุขภาพ โดยใช้โมเดลเชิงรุก คือ เน้นการค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ, แบ่งกลุ่ม ตามความเสี่ยง เสี่ยงสูง ปานกลาง และน้อย ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะนัดหมายประเมินเรื่องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรายบุคคลระยะเวลา 6 เดือน และติดตามผลระบบ Telemedicine พร้อมดำเนินการปรับพฤติกรรม โครงการฯ ดังกล่าว มีเป้าหมาย ผู้ประกันตน 300,000 คน ได้รับการตรวจสุขภาพเพื่อค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาวะ นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมป้องกันการเจ็บป่วย เกิดต้นแบบด้านการบริการและป้องกันโรคในสถานประกอบการ โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนต่อหัวเฉลี่ย รายละ 910 บาท (กลุ่มเสี่ยง) 340 บาท (กลุ่มไม่เสี่ยง) วงเงิน 187.50 ล้านบาท
“โครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกในสถานประกอบการ” จะให้การคุ้มครองทางสังคมและสิทธิประโยชน์ด้านประกันสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้ประกันตนทุกคน สอดคล้องกับนโยบาย ของท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ให้การดูแลผู้ใช้แรงงาน อย่างเท่าเทียมโดย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางานด้านประกันสังคม ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิดความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพ ของผู้ประกันตนต่อไป นายบุญสงค์ กล่าวท้ายสุด
11 มกราคม 2566
ผู้ชม 324 ครั้ง