“อมลวรรณ” ปลื้มผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเข้าใช้ระบบ KSP e-Service ให้บริการออก-ต่อใบอนุญาตราบรื่น เล็งพัฒนาต่อยอด ลดขั้นตอน สะดวกในการยื่น เตือนผู้ยื่นคำขอตรวจเช็กสถานะหากไม่ได้รับการอนุมัติ
ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ได้เปิดให้บริการใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ KSP e-Service ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นข้อบังคับใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 โดยให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนและขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ของคุรุสภา www.ksp.or.th พบว่า การให้บริการออนไลน์ช่วยลดภาระให้แก่นิสิต นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้จริง ทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาติดต่อที่คุรุสภา ไม่ต้องรอนาน ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาก็สามารถตรวจสอบคุณสมบัติ และพิจารณาอนุมัติการออกและต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาให้แก่ผู้ยื่นคำขอได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคุรุสภาจะพัฒนาระบบ KSP e-service ลดเอกสารและขั้นตอนให้มีความสะดวกในการยื่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้าน ผศ.ดร.พลรพี ทุมมาพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า หลังจากที่ยื่นคำขอผ่านระบบ KSP e-Service แล้ว ขอให้ผู้ยื่นคำขอฯกลับมาตรวจสอบสถานะเบื้องต้นภายในเวลา 15 วันทำการ เนื่องจากที่ผ่านมา ย้อนหลัง 3 เดือน ทั้งก่อนและหลังการออกข้อบังคับใหม่ พบว่า ในจำนวนผู้ยื่นคำขอออกและต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา 53,895 คน มีผู้ที่ยื่นเอกสารไม่ครบถึง 6,269 คน ทำให้คุรุสภาต้องขอให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม เช่น ในแบบคำขอกรอกข้อมูลไม่ครบถ้วน ไม่ลงลายมือชื่อรับรองการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพและรับรองคุณสมบัติของตนเอง, ไม่แนบสำเนาหลักฐานการพัฒนาตนเอง , ก.พ. 7 ปรับข้อมูลไม่เป็นปัจจุบัน, ก.ค.ศ. 16 ปรับข้อมูลไม่เป็นปัจจุบันและแนบไม่ครบ, แบบประเมินการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษากรอกข้อมูลไม่ครบถ้วนสมบูรณ์, มหาวิทยาลัยไม่จัดส่งรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษาในระบบ KSP Bundit, ยังไม่ได้ชำระเงินค่าธรรมเนียม และรูปถ่ายไม่ชัดเจน หรือไม่เป็นไปตามรูปแบบที่กำหนด เป็นต้น ทั้งนี้ ขอย้ำว่าการตรวจสอบสถานะเบื้องต้นเป็นเรื่องสำคัญมาก เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วนถูกต้องจึงจะดำเนินการในขึ้นตอนต่อไปได้ แต่หากเอกสารไม่ครบถ้วนถูกต้อง คุรุสภาจะมีการแจ้งเตือนเข้าไปในระบบและให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม ถ้าผู้ยื่นคำขอไม่ตรวจสอบสถานะและส่งเอกสารเพิ่มเติมให้เรียบร้อย จะส่งผลให้คำขอดังกล่าวค้างอยู่ในระบบ และจะไม่ได้รับการตรวจเอกสารหลักฐานอีกครั้ง ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ผู้ยื่นคำขอเข้ามาตรวจสอบสถานะคำขอของตนเองภายในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของตัวผู้ยื่นคำขอ และจะทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ผศ.ดร.พลรพี กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อมูลการรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาล่าสุด ณ วันที่ 28 มีนาคม 2566 พบว่า มีผู้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาแล้ว ทั้งสิ้น 1,001,146 คน ในจำนวนนี้เป็นใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 902,271 คน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษา 81,822 คน ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารการศึกษา 8,491 คน และ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพศึกษานิเทศก์ 8,562 คน คุรุสภามีความมุ่งมั่นให้บริการและบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ รวมถึงเห็นความสำคัญของการอำนวยความสะดวกในการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว และขณะนี้ทางครุสภากำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนระบบการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ขอให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์คุรุสภาหรือสื่อออนไลน์ของทางคุรุสภา และศึกษาข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2565 ที่มีรายละเอียดในฉบับเต็ม เพราะเป็นเรื่องใหม่ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามหรือรับคำปรึกษากับทางคุรุสภา หรือติดต่อสอบถามได้ที่พนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภาในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดที่สมาชิกสังกัดทั่วประเทศ.
31 มีนาคม 2566
ผู้ชม 290 ครั้ง