นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอส่งความปรารถนาดีไปยังพี่น้องแรงงานทุกคน ในโอกาสเทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ประจำปี 2567 โดยขอให้ใช้ช่วงเวลานี้พักผ่อนกับครอบครัว รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และสืบสานประเพณีที่ดีงามของไทย พร้อมทั้งกำชับให้ส่วนราชการในพื้นที่ อาสาสมัครแรงงานทุกจังหวัด และบัณฑิตแรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น ช่วยอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนและผู้ใช้แรงงานที่เดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อฉลองสงกรานต์ทั่วประเทศอย่างปลอดภัยและมีความสุข
กระทรวงแรงงานได้ขอความร่วมมือนายจ้างและสถานประกอบกิจการต่าง ๆ พิจารณากำหนดให้วันศุกร์ที่ 12 เม.ย. เป็นวันหยุดเพิ่มเติมตามมติคณะรัฐมนตรี และจัดให้ลูกจ้างหยุดต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ที่ 12 เม.ย. – 16 เม.ย.2567 และหากนายจ้างหรือสถานประกอบกิจการใดกำหนดให้วันเสาร์ที่ 13 เม.ย.และวันอาทิตย์ที่ 14 เม.ย. เป็นวันหยุดตามประเพณีซึ่งตรงกับวันหยุดประจำสัปดาห์ ให้เลื่อนวันหยุดตามประเพณีไปหยุดในวันทำงานถัดไป สำหรับงานขนส่งทางบก นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างที่ขับขี่ยานพาหนะ ทำงานไม่เกินวันละ 8 ชม. หากจะทำงานล่วงเวลาต้องไม่เกินวันละ 2 ชม. โดยได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากลูกจ้าง และในวันทำงานถัดไปห้ามนายจ้างให้ลูกจ้างเริ่มต้นทำงานก่อนครบ 10 ชม. หลังสิ้นสุดการทำงานในวันก่อนหน้า
“ขอย้ำให้พี่น้องแรงงานเตรียมเอกสารสำคัญติดตัว เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรประกันสังคม ส่วนแรงงานข้ามชาติขอให้เตรียมบัตรสีชมพู ใบรับรองการผ่อนผัน หนังสือเดินทาง ไว้ให้พร้อมเมื่อเดินทางหรือกลับประเทศต้นทาง นอกจากนี้ขอให้ตรวจสภาพรถก่อนเดินทางและขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ในวันที่ 13 เม.ย.2567 เป็นต้นไป อัตราค่าจ้างใหม่ 400 บาท จะมีผลบังคับใช้ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 10 จังหวัด ตามมติคณะกรรมการค่าจ้างไตรภาคี ซึ่งนับเป็นก้าวแรกในการปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาล” นายภูมิพัฒน์ กล่าว
12 เมษายน 2567
ผู้ชม 100 ครั้ง