มันเทศ (sweet potatoes) เป็นพืชหัวที่ปลูกกันมานานในประเทศไทยทั่วทุกภูมิภาค เป็นพืชที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี และสามารถปลูกได้ตลอดปี มีความต้องการน้ำมากในระยะแรกของการปลูกเท่านั้น แต่เมื่อตั้งตัวได้ ความต้องการน้ำจะลดลง เจริญเติบโตดี ทนทานต่อความแห้งแล้ง มีอายุเก็บเกี่ยว 3 เดือน สามารถให้ผลผลิตได้ตั้งแต่ 800–3,000 กิโลกรัมต่อไร่ขึ้นอยู่กับสภาพท้องที่ที่ปลูก
อาจารย์สนทยา มูลศรีแก้ว หัวหน้าสาขาวิชาสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ได้มีการสำรวจพื้นที่ ตำบลทับน้ำ อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าสามารถปลูกมันเทศได้ตลอดทั้งปีเนื่องจากมีคลองทับน้ำไหลผ่านซึ่งคลองนี้เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีพื้นที่ปลูกมันเทศประมาณ 900 ไร่ มีผลผลิตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 2,710,000 กิโลกรัมซึ่งในปริมาณนี้มีผลผลิตที่เสียหายคัดทิ้งจากการโดนแมลงกัดทำลาย หัวเล็กไม่ได้ขนาด และมันมีลักษณะเป็นเสี้ยนรวมกันประมาณร้อยละ 4 หรือ 108,400 กิโลกรัม นอกจากนี้แล้วการปลูกมันเทศยังมีผลพลอยได้คือเถามันเทศที่สามารถใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ โดยพื้นที่เพาะปลูก 1 ไร่จะได้เถามันเทศประมาณ 2,000 กิโลกรัม ซึ่งผลผลิตที่เสียหายเหล่านี้ เป็นผลพลอยได้ที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างดี
จากผลการศึกษาคุณค่าทางโภชนะของเถามันเทศพบว่ามีโปรตีนและแป้งสูงร้อยละ 12.50 และร้อยละ 10.68 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีไขมันต่ำ (ร้อยละ 0.17) ซึ่งเหมาะสมต่อการนำมาเป็นวัตถุดิบอาหารหยาบสดในการเลี้ยงสัตว์กระเพาะรวม คือ โค กระบือ แพะ แกะ ได้ดี ซึ่งจากการนำมาทดสอบใช้เลี้ยงโคเนื้อและโคนมโดยให้กิน เถามันเทศสดอย่างเต็มที่ทดแทนการกินหญ้าสดเป็นระยะเวลา 20 วัน พบว่าโคสามารถกินเถามันเทศได้เฉลี่ยร้อยละ 9.34 ของน้ำหนักตัวซึ่งต่ำกว่าโคในกลุ่มที่กินหญ้าขนสดอย่างเดียวเล็กน้อย (ร้อยละ 9.38 ของน้ำหนักตัว) นอกจากนี้ยังมีรายงานการใช้เถามันเทศเพื่อเป็นอาหารของสุกรขุน ในระยะหลังหย่านมจนถึง 100 กิโลกรัม โดยหั่นเถามันเทศสดให้ละเอียดใช้ทดแทนอาหารข้น พบว่าสุกรมีประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารด้อยลง เจริญเติบโตช้า แต่มีคุณภาพซาก เมื่อฆ่าชำแหละแล้ว ไม่แตกต่างกับกลุ่มที่เลี้ยงด้วยอาหารข้นล้วน โดยการใช้มันเทศในสูตรอาหารข้นทำให้มีต้นทุนค่าอาหารต่อการเพิ่มน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่ำกว่าการเลี้ยงด้วยอาหารข้นเพียงอย่างเดียว ซึ่งควรเลือกใช้เถามันเทศทดแทนวัตถุดิบอาหารข้นที่มีระดับโปรตีนใกล้เคียงกัน เช่น ปลายข้าว และรำละเอียด เป็นต้น
นอกจากนี้หัวมันเทศคัดทิ้ง พบว่ามีแป้งและน้ำตาลสูงร้อยละ 31.33 สามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเพื่อทดแทนมันเส้นในสูตรอาหารสุกร โค กระบือ แพะ แกะ ได้ และยังพบว่ามีเบต้าแคโรทีนสูง 1,250 (±0.58) mg/ 100 g สามารถใช้ทดแทนมันเส้นในสูตรอาหารไก่ไข่ได้ร้อยละ 100 โดยไม่ทำให้คุณภาพของไข่เปลี่ยนแปลงและยังทำให้ไข่ไก่มีสีเหลืองสดน่ารับประทาน เนื่องจากเบต้าแคโรทีนเป็นสารต้นตอที่ทำให้ไข่มีสีเหลืองสด
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์สนทยา มูลศรีแก้ว หัวหน้าสาขาวิชาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ โทร.08 7413 2711
10 พฤษภาคม 2562
ผู้ชม 627 ครั้ง