กระทรวงแรงงาน สั่งเจ้าหน้าที่แรงงานเร่งสร้างความเข้าใจ และดำเนินคดีผู้ที่ไปทำงานต่างประเทศผิดกฎหมาย หลังพบแรงงานไทยชักชวนลักลอบทำงานเกาหลีใต้ ขณะที่กรมการจัดหางานจัดตั้งชุดเฝ้าระวัง ใช้สายตรวจออนไลน์คอยตรวจสอบพฤติการณ์ขบวนการค้ามนุษย์และกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีคนหางานชักชวนกันลักลอบไปทำงานเกาหลีใต้ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียโดยการแอบแฝงเป็นนักท่องเที่ยว นั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ เร่งประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนให้คนหางานรับรู้และเข้าใจว่าการลักลอบไปทำงานต่างประเทศ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีโทษหนัก พร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ชักชวนหรือหลอกลวงแรงงานอย่างเคร่งครัด และสั่งการให้กรมการจัดหางานจัดชุดเฝ้าระวัง ตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมในการโฆษณาชักชวนคนหางานไปทำงานต่างประเทศ
ด้าน นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สายตรวจออนไลน์จะคอยตรวจสอบ เฝ้าระวังเว็บไซต์ที่มีพฤติกรรมในการโฆษณาชักชวนคนหางานไปทำงานต่างประเทศอย่างเข้มงวด หากพบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และโพสต์ข้อความเตือนชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศไปยัง Facebook หรือสื่อโซเชียลมีเดียอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมามีสถิติการโพสต์ตอบโต้จำนวน 3,982 ครั้ง อีกทั้ง มีการประสานกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีการแชร์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการเชิญชวนประชาชน คนหางานที่สนใจไปทำงานต่างประเทศโดยบุคคล บริษัท หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์
“กระทรวงแรงงานจะใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด กับบริษัทและนายหน้าที่มีพฤติการณ์หลอกลวง เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานไทยถูกหลอกลวง หรือพยายามลักลอบเดินทางไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเข้มงวดและจริงจัง อย่างไรก็ดี ผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาทหรือทั้งจําทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537” นายสุชาติฯ กล่าว
10 มกราคม 2563
ผู้ชม 453 ครั้ง