นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผย ผลการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ว่า ครม.มีมติเห็นชอบปรับกรอบวงเงินโครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน 29 จังหวัด โดยขยายกรอบวงเงินเพิ่ม 44,314 ล้านบาท เป็นจำนวน 77,785 ล้านบาท (จากเดิมที่เคยอนุมัติไปแล้ว 33,471 ล้านบาท) ตามที่กระทรวงแรงงาน และสำนักงานประกันสังคมได้เสนอเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 แล้ว ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบให้ขยายการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด – 19 ในพื้นที่ 13 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา ซึ่งก่อนหน้านี้ รับสิทธิเยียวยาไปแล้ว 5,000 บาท ต่อคน จะได้รับสิทธิเยียวยาเพิ่ม 5,000 บาท ต่อคน อีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน โดยมีผู้ประกันตนใน 13 จังหวัดได้รับสิทธิในครั้งนี้ จำนวน 6,171,082 คน รวมเป็นวงเงินทั้งสิ้น 61,710,820,000 ล้านบาท ทั้งนี้ การอนุมัติจ่ายเงินในรอบที่เพิ่มนั้น จะดำเนินการภายในเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวต่อไปว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงานได้มีความห่วงใยและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเงินเยียวยาที่เพิ่มมาในครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พี่น้องแรงงานเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์อันยากลำบากครั้งนี้ไปด้วยกัน ในกลุ่มผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์ตามเงื่อนไขแต่ตกหล่นในการโอนเงินรอบแรก ทั้ง ผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ให้รีบดำเนินการตรวจสอบข้อมูลตนเองเป็นการด่วน โดยสำนักงานประกันสังคม นำข้อมูลของผู้ประกันตนขึ้นระบบ www.sso.go.th เพื่อให้ผู้ประกันตนกลุ่มตกหล่นสามารถตรวจสอบว่า ตนเองอยู่ในกลุ่มที่โอนเข้าบัญชีไม่ได้ เพราะสาเหตุใด และวิธีดำเนินการแก้ไข ได้ตั้งแต่วันที่ 1- 30 กันยายน 2564 นี้ พร้อมย้ำ ไปยังผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 ที่มีสิทธิจะต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ด้วยเลขที่ประจำตัวประชาชนกับธนาคาร เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการไม่เว้นวันหยุดราชการตลอด 24 ชั่วโมง
06 กันยายน 2564
ผู้ชม 378 ครั้ง