28 มิถุนายน 2568

ข่าวประกาศ

กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รับสมัครบุคคลเข้ารับราชการ จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ - 15 มีนาคม 2565 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล รับสมัครบุคคลเป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565 กรมทางหลวง รับสมัครเข้ารับราชการ จำนวน 6 ตำแหน่ง สมัครตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 14 มีนาคม 2565 กรมสรรพสามิต รับสมัครบุคคล (คนพิการ) เป็นพนักงานราชการทั่วไป จำนวน 6 อัตรา สมัครตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม 2565

ดูบทความ“สกศ.”ชงแผนพลิกวิกฤติหลังผลจัดอันดับ IMD ด้านการศึกษาไทยร่วง 1 อันดับ

“สกศ.”ชงแผนพลิกวิกฤติหลังผลจัดอันดับ IMD ด้านการศึกษาไทยร่วง 1 อันดับ

หมวดหมู่: การศึกษา

 “อรรถพล”ไม่หวั่นแม้ผลจัดอันดับ IMD ด้านการศึกษาปี 2564 ร่วง 1 อันดับ ได้ที่ 56 จาก 64 ประเทศ ชงแผนพลิกวิกฤติปลุกทุกภาคส่วนร่วมพัฒนาจัดการศึกษาพัฒนาพหุปัญญาเด็กไทยรายบุคคล

 

 

ดร.อรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ( สกศ.) ได้ศึกษาเปรียบเทียบสมรรถนะการศึกษาของประเทศไทยกับนานาชาติ โดยใช้ดัชนีของสถาบันเพื่อพัฒนาการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development : IMD) ซึ่ง IMD ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่าง ๆ จำนวน 64 ประเทศ โดยในปี 2564 ผลการจัดอันดับด้านการศึกษา ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 56 มีอันดับลดลง 1 อันดับจากปี 2563 และ เป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เข้าร่วมการจัดอันดับ โดยเป็นรองประเทศสิงคโปร์ ที่ได้อันดับ 7 และประเทศมาเลเซีย ที่ได้อันดับ 39 

 

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวต่อไปว่า เมื่อวิเคราะห์ตัวชี้วัดด้านการศึกษาของ IMD จำนวน 19 ตัวชี้วัด โดยเปรียบเทียบกับปี 2563 พบว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งหรือมีการพัฒนามากที่สุด 2 ตัวชี้วัด คือ ดัชนีมหาวิทยาลัยมีอันดับดีขึ้น 1 อันดับ จากอันดับที่ 49 เป็นอันดับที่ 48  และ อัตราส่วนนักเรียนต่อครู ที่สอนระดับประถมศึกษา มีอันดับดีขึ้นถึง 6 อันดับ จากอันดับที่ 36 เป็นอันดับที่ 30 ส่วนตัวชี้วัดที่เป็นจุดอ่อนในด้านการศึกษา มี 3 ตัวชี้วัด  คือ อัตราการเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษา มีอันดับลดลง 4 อันดับ จากอันดับ 57 เป็นอันดับ 61 อัตราส่วนนักเรียนต่อครูระดับมัธยมศึกษา ลดลง 3 อันดับ จากอันดับ 57 เป็นอันดับ 60 และ งบประมาณด้านการศึกษาต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ลดลง 1 อันดับ จากอันดับ 58  เป็นอันดับ 59

 

“ เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดของ IMD โดยจำแนกตามวัตถุประสงค์หลักของการปฏิรูปการศึกษา 3 ด้าน เพื่อวางแผนพัฒนาการศึกษาไทยให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานระดับสากล และยกระดับสมรรถนะทางการศึกษาด้วยการพัฒนาอันดับ พบว่า 1.กลุ่มตัวชี้วัดด้านคุณภาพการศึกษา มีอันดับต่ำกว่าครึ่งของประเทศที่เข้าร่วมการจัดอันดับ ทั้งจากการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ  PISA ,ผลสัมฤทธิ์ของการอุดมศึกษา ,ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ และอัตราการไม่รู้หนังสือของประชากร เป็นต้น  2.กลุ่มตัวชี้วัดที่สะท้อนการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา พบว่า ไทยมีอัตราการเข้าเรียนระดับมัธยมศึกษาลดลง อัตราส่วนนักเรียนต่อครูระดับมัธยมศึกษายังไม่เหมาะสม และ งบประมาณด้านการศึกษาต่อ GDP มีอันดับรั้งท้ายของประเทศที่เข้าร่วมการจัดอันดับ และ 3.กลุ่มตัวชี้วัดด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ IMD มาสุ่มสำรวจถามความคิดเห็นผู้ประกอบการ พบว่า ภาคเอกชนหรือสถานประกอบการ มีความพึงพอใจจากการใช้บัณฑิต ซึ่งมีแนวโน้มของอันดับที่ดีขึ้น แต่ยังมีอันดับต่ำกว่าครึ่งของประเทศที่เข้าร่วมการจัดอันดับทั้งหมด ” ดร.อรรถพล กล่าวและว่า ผลการจัดอันดับได้สะท้อนว่า ระบบการศึกษาของไทยควรได้รับการพัฒนา ซึ่งในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวพร้อมทั้งเสนอให้องค์กรหลักต่าง ๆ ปรับปรุงแผนการเสนอของบประมาณ ปี2566 ที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการศึกษา ซึ่ง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ก็รับที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อผลักดันการปรับอัตราเงินอุดหนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้สอดคล้องกับ GDP

 

เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวด้วยว่า สกศ.ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงได้จัดทำร่างแผนการยกระดับสมรรถนะทางการศึกษาของประเทศไทยด้วยการพัฒนาผลการจัดอันดับ IMD ขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้น เพื่อยกระดับผลการจัดอันดับ IMD ในปี 2565  โดยได้เริ่มสร้างความรู้ความเข้าใจให้ภาคเอกชนรับทราบถึงความสำคัญของการสำรวจข้อมูลความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของ IMD ตลอดจนเร่งพัฒนาการศึกษาที่สามารถพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน จัดทำฐานข้อมูลรายบุคคล เพื่อดูแลการเข้าถึงการศึกษาของนักเรียน โดยจัดให้มีการคัดกรองหรือวัดแววเด็กเพื่อจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความถนัดและพหุปัญญาที่หลากหลายของผู้เรียนแต่ละคน ไม่ใช่ตัดเสื้อโหลให้เด็ก  และเพื่อให้สามารถติดตามนักเรียนได้ในทุกพื้นที่ เนื่องจากข้อมูลพบว่าเด็กที่เรียนต่อระดับมัธยมศึกษามีจำนวนน้อยกว่าเด็กที่จบระดับประถมศึกษาค่อนข้างมาก ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการ เร่งเก็บตกนักเรียนที่ตกหล่นกลับสู่ระบบการศึกษา.

02 กุมภาพันธ์ 2565

ผู้ชม 356 ครั้ง

Engine by shopup.com