วันที่ 10 มีนาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า มีความห่วงใยนายจ้าง/สถานประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว ตามมติ 28 ก.ย. 64 หลังตรวจสอบพบนายจ้างยังไม่มาดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน จำนวน 19,489 ราย ครม.จึงมีมติเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 65 เห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เพื่อแก้ไขข้อขัดข้องให้นายจ้างสามารถดำเนินการได้ทันตามกำหนด ซึ่งหากยังไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มี.ค. 65 จะส่งผลให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าว ไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้ และกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย โดยนายจ้าง/สถานประกอบการ ต้องชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอฉบับละ 100 บาท และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานฉบับละ 1,350 บาท ไม่เกินวันที่ 15 มีนาคม 2565 ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัด อันเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานของคนต่างด้าว
“การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวโดยคำนึงถึงการรักษากำลังแรงงาน ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของนายจ้าง สถานประกอบการ และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูประเทศ ช่วยให้ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศขับเคลื่อนได้ต่อไป ทั้งในสถานการณ์ที่เป็นอยู่และภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลาย เป็นสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน เน้นย้ำมาโดยตลอด ซึ่งผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอฝากถึงนายจ้างให้ดำเนินการตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่กำหนด เห็นความสำคัญของการจ้างแรงงานถูกกฎหมาย คนต่างด้าวได้รับความคุ้มครองและมีสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ การคุ้มครองตามสิทธิที่พึงได้รับ”รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับมติครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 64 เป็นการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อสนับสนุนการควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสถานที่ก่อสร้างสถานประกอบการ โรงงาน และสถานที่ทำงาน ช่วงวันที่ 1 พ.ย. – 30 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุขแก่นายจ้างและคนต่างด้าว หากพบคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะจัดทำประวัติ และให้นายจ้างมายื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว ภายใน 7 วัน (สิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการแล้ว) พร้อมชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน ภายในวันที่ 15 มี.ค. 65 และดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์ข้อมูลบุคคล ตรวจสุขภาพ 6 โรค ภายในวันที่ 31 มี.ค. 65 รวมถึงขอรับตรวจลงตราหรือประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวภายในวันที่ 1 ส.ค. 65 จากการลงพื้นที่ตรวจสอบนั้น พบคนต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานได้จัดทำประวัติ และบันทึกข้อมูลคนต่างด้าว จำนวนทั้งสิ้น 353,776 คน มีนายจ้างมาดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว พร้อมชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานแล้ว จำนวน 334,287 ราย ยังคงเหลือนายจ้างที่ไม่สามารถชำระค่าธรรมเนียมค่ายื่นคำขอ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด จำนวน 19,489 ราย ซึ่งเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนด หากนายจ้าง/สถานประกอบการ ยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จ กรมการจัดหางานจำเป็นต้องตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมาย
11 มีนาคม 2565
ผู้ชม 429 ครั้ง