นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวว่า เด็กจบใหม่ว่างงานหนึ่งแสนคนนั้น ในเรื่องดังกล่าวกระทรวงแรงงานได้มีตำแหน่งงานว่างและมาตรการต่างๆ รองรับไว้แล้ว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศไทยและทั่วโลกที่กำลังคลี่คลาย รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน และท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขานรับนโยบายการส่งเสริมการมีงานทำ โดยได้ลงพื้นที่พบปะภาคเอกชนสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการพัฒนาการให้บริการจัดหางานผ่านระบบออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
นายไพโรจน์ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม พบว่า ภาพรวมการจ้างงานของนักศึกษาจบใหม่ปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ในภาคเอกชนนั้น มีจำนวนนักศึกษาจบใหม่ระดับ ปวช.ปวส.และปริญญาตรีรวมจำนวนทั้งสิ้น 575,230 คน ศึกษาต่อ 177,438 คน ต้องการทำงาน 397,792 คน นอกจากนี้ พบว่ายังมีนักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการมีงานทำปี 2563 และ 2564 จำนวน 795,584 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ร้อยละ 85.85
มีงานทำและมีรายชื่ออยู่ในฐานทะเบียนประกันสังคมแล้ว มีเพียงร้อยละ 14.15 เท่านั้น ที่อยู่ในระบบการจ้างงานในภาครัฐ รวมทั้งประกอบอาชีพอิสระและว่างงาน สำหรับปี 2565 นี้ มีนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงระหว่างการตัดสินสินที่จะศึกษาต่อ หางานทำ หรือประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งตัวเลขนักศึกษาจบใหม่ที่ว่างงานดังกล่าวข้างต้นในช่วงเวลานี้ถือเป็นสถานการณ์ปกติ
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 272,977 อัตรา โดยประเภทอาชีพที่ต้องการจ้างงาน 5 อันดับแรก ได้แก่ แรงงานด้านบรรจุภัณฑ์ แรงงานด้านการประกอบ พนักงานขายของหน้าร้านและสาธิตสินค้า ตัวแทนบริการทางธุรกิจและนายหน้าการค้า และตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า ซึ่งมีทั้งวุฒิ ปวช.ปวส.และปริญญาตรี
นายไพโรจน์ ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่กระทรวงแรงงานต้องทำงานให้หนักขึ้นเพื่อส่งเสริมให้คนหางานมีโอกาสประกอบอาชีพอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ของตนเอง และนายจ้าง สถานประกอบการมีแรงงานที่มีทักษะเหมาะสมกับตำแหน่ง เพื่อขับเคลื่อนกิจการ โดยมอบหมายกรมการจัดหางานเร่งหาตำแหน่งงานเชิงรุกจากบริษัทที่มีศักยภาพ และต้องการจ้างแรงงานเป็นจำนวนมากจากทั่วประเทศ เพื่อมาบรรจุไว้ใน แพลตฟอร์ม ไทยมีงานทำ ซึ่งกรมการจัดหางานยังมีแผน จะจัด Roadshow ทั่วประเทศต่อไป เพื่อเร่งหาตำแหน่งงานเชิงรุกจากบริษัทที่มีศักยภาพ มีความน่าเชื่อถือ และเป็นเป้าหมายของผู้สมัครงาน อาทิ กลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) บริษัท คิงส์ แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็ได้แจ้งตำแหน่งงานว่างที่จะลงในแพลตฟอร์มไทยมีงานทำถึง 2,000 อัตรา
“สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการที่ต้องการรับสมัครงาน สามารถใช้บริการที่เว็บไซต์ “ไทยมีงานทำ.doe.go.th” หรือแอปพลิเคชัน “ไทยมีงานทำ” โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และ ภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ และสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ต้องการช่องทางรับสมัครงาน สามารถลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวท้ายสุด
19 พฤษภาคม 2565
ผู้ชม 400 ครั้ง