รมว. แรงงาน ห่วงใยแรงงานไทยและครอบครัว แนะแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอลเร่งยื่นขอรับสิทธิกองทุนฯ พร้อมสั่งการเจ้าหน้าที่เร่งจ่ายเยียวยาโดยเร็วที่สุด ล่าสุดเยียวยาแล้ว 2,739 ราย เป็นเงินกว่า 41 ล้านบาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ผมมีความห่วงใยแรงงานไทยและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล หวังให้ได้รับการเยียวยาตามสิทธิโดยเร็ว จึงขอฝากถึงแรงงานไทยที่กลับถึงภูมิลำเนาในประเทศไทยแล้ว ดำเนินการยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานในต่างประเทศ ที่กรมการจัดหางาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้กรมการจัดหางาน โดยสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศเร่งดำเนินการรับคำร้องและรวบรวมเอกสารหลักฐานขอรับสิทธิฯจากแรงงานไทยโดยเร็วที่สุด และติดตามให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิดให้ได้สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ทางรัฐบาลกำหนด ความคืบหน้าล่าสุดกรมการจัดหางานได้มอบสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ให้แก่แรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม - 9 พฤศจิกายน 2566 แล้ว จำนวน 2,739 ราย แบ่งเป็น กรณีเสียชีวิต 16 ราย รายละ 40,000 บาท กรณีทุพพลภาพ 3 ราย รายละ 30,000 บาท กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับไทย เนื่องจากภัยสงคราม 2,720 คน คนละ 15,000 บาท รวมเป็นเงิน 41,530,000 บาท
ในส่วนสถานการณ์แรงงานไทยในอิสราเอล ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 มีแรงงานไทยเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว 55 เที่ยวบิน รวม 8,815 ราย ได้รับรายงานว่าถูกจับเป็นตัวประกัน 25 ราย (ยืนยันจากทางการอิสราเอลแล้ว) บาดเจ็บ 18 ราย สูญหาย 22 ราย และเสียชีวิต 34 ราย ในจำนวนนี้ส่งร่างกลับประเทศไทยแล้ว 34 ราย
ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เร่งทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้การจ่ายสิทธิประโยชน์กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยแรงงานไทยที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์เยียวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ดังนี้
1.กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากภัยสงคราม รายละ 15,000 บาท
2.กรณีมีการรับรองจากแพทย์ว่าทุพพลภาพ จะได้รับการสงเคราะห์ เป็นจำนวน 30,000 บาท
3.กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ จะสงเคราะห์จำนวน 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่าง ประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท
ทั้งนี้ สามารถยื่นเอกสารหลักฐานเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนฯ ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานและติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล กระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยเตรียมเอกสารสำคัญ อาทิ สำเนาบัตรสมาชิกกองทุนฯ (ถ้ามี) สำเนาหนังสือเดินทาง (ทุกหน้าที่มีข้อมูลและมีตราประทับ ถ้าไม่ได้ประทับตราวันที่กลับเข้าไทยให้แนบสำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินวันที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทย) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบอนุญาตทำงาน หรือ สำเนาบัตรวีซ่าทำงาน สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง (ธนาคารใดก็ได้ พร้อมกรอกแบบฟอร์ม KTB Corporate Online) หรือในกรณีเสียชีวิตจะต้องเตรียมสำเนาใบมรณบัตร และเอกสารของทายาทซึ่งเป็นผู้รับสิทธิด้วย โดยหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ และสายด่วน 1694 กรมการจัดหางาน
10 พฤศจิกายน 2566
ผู้ชม 152 ครั้ง