เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2568 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมี นางสาวอุษา ธีระวิทยเลิศ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาววราภรณ์ เกียรติรัศมี ประกันสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม นักกายภาพบำบัดจากศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมคณะ เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพถึงบ้านพักในจังหวัดกาฬสินธุ์
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ในโครงการ “สปส.มอบสุข” พร้อมคณะผู้บริหารจากสำนักงานประกันสังคมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อตรวจเยี่ยม พูดคุยให้กำลังใจ รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ในการดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ อีกทั้ง ยังได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนเครื่องใช้ที่จำเป็น มามอบให้กับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพที่อยู่ในความดูแลของประกันสังคมจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 3 ราย
โดยรายแรกคือ นายทองศรี นาไชยโย อายุ 52 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2561 จากวัณโรคเยื่อหุ้มสมอง และอาการเส้นเลือดในสมองตีบ เป็นเหตุให้ แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง สูญเสียสมรรถภาพการทำงานของร่างกายร้อยละ 68 ได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 4,623 บาท ตลอดชีวิต รายที่ 2 คือ นายสมพร หรเพริด อายุ 49 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2556 จากอุบัติเหตุรถจักยานยนต์ล้ม ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้แขนและขาข้างขวาอ่อนแรง ไม่สามารถใช้งานได้ สูญเสียสมรรถภาพการทำงานของร่างกายร้อยละ 90 ได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 4,782 บาท ตลอดชีวิต และรายที่ 3 คือ นางสาวสุคนทิพย์ ครองสี อายุ 46 ปี ผู้ประกันตนมาตรา 33 เป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2563 จากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เนื่องจากพบเลือดในปอดจำนวนมาก เป็นเหตุให้แขนและขาทั้ง 2 ข้าง ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ไม่สามารถสื่อสารได้ สูญเสียสมรรถภาพการทำงานของร่างกายร้อยละ 85 ได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต
“ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่า สำนักงานประกันสังคมพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ ให้สามารถเข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย เพื่อให้ผู้ประกันตนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเท่าเทียม เพราะผู้ประกันตนทุกคนคือครอบครัวประกันสังคม” เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้าย
10 มีนาคม 2568
ผู้ชม 52 ครั้ง