เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน แสดงความห่วงใยต่อเหตุหลังคาอาคารถล่มในจังหวัดเชียงราย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย พร้อมได้สั่งการให้ นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เร่งให้การช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิต และลูกจ้างที่ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ทันทีได้รับข้อสั่งการ จึงมอบหมายให้ประกันสังคมจังหวัดเชียงรายตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ประสบเหตุทั้ง 8 ราย เป็นลูกจ้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด เดอะวันบีม ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้าง ปฏิบัติงานภายในบริเวณโรงงานชาไทย อินเตอร์เนชั่นแนล (Cha Thai International) ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลเวียงกาหลง อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งโครงหลังคาเกิดการพังถล่มลงมาขณะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้แก่ นายจาย หม่อง สัญชาติเมียนมา โดยทายาทลูกจ้างที่เสียชีวิต จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ประกอบด้วย ค่าทำศพจำนวน 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตเป็นเงินร้อยละ 70 ของค่าจ้าง เป็นระยะเวลา 10 ปี และเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด จำนวน 7 ราย ได้แก่
1. นายสิทธิชัย วรรณพฤกษ์
2. นายวิทยา ไตรวงศ์ย้อย
3. นายวิทวัส สียือ
4. นายธีระวัฒน์ จันทนาม
5. นางนาน เอยัง
6. นายจาย อ้ายทุน
7. นายจาย หล้าพู
โดยผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และโรงพยาบาลเวียงป่าเป้าแล้ว สำหรับการช่วยเหลือลูกจ้างที่ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ผู้บาดเจ็บจะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น 65,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐจนสิ้นสุดการรักษาจะได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นจนกว่าจะสิ้นสุดการรักษากรณีแพทย์รับรองให้หยุดพักรักษาตัว มีสิทธิได้รับค่าทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนไม่เกิน 1 ปี หากมีการสูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานจะได้รับค่าทดแทนกรณีสูญเสียอวัยวะร้อยละ 70 ของค่าจ้าง รายเดือน ตามอัตราการสูญเสีย และในกรณีทุพพลภาพจะได้รับค่าทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือนตลอดชีวิต
นางมารศรี กล่าวต่อไปว่า ขอให้นายจ้างให้ความสำคัญต่อการแจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนให้ลูกจ้างอย่างถูกต้องตามกำหนดเวลา เพื่อให้ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคม รวมถึงกองทุนเงินทดแทนอย่างครบถ้วน เพื่อเป็นหลักประกันในการดำรงชีวิต และการทำงานของลูกจ้าง ให้รู้สึกปลอดภัย ถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ก็ยังมีสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคมให้การดูแล
10 กรกฎาคม 2568
ผู้ชม 28 ครั้ง