เรียบเรียงโดย : ผศ.ดร.อารณีย์ วิวัฒนาภรณ์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต
สภาพการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ในระดับบุคคล ครอบครัว สังคม และระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาครอบครัวแตกแยก ความยากจน ยาเสพติด และอาชญากรรม ประกอบกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้วิถีชีวิตของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตในสังคม นอกจากนี้ พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัญหาอาชญากรรมบนโลกออนไลน์มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าสังคมจะมีความเจริญเติบโตก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถควบคุมปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงจากสังคมไทย ซึ่งจะเห็นได้จากสถิติการรับแจ้งคดีอาญาของตำรวจระหว่างปี พ.ศ.2564-2566 ดังนี้
ประเภทฐานความผิด |
ปี พ.ศ. |
||
2564 |
2565 |
2566 |
|
ฐานความผิดเกี่ยวกับ ชีวิต ร่างกาย และเพศ |
15,582 |
18,073 |
38,183 |
ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ |
52,331 |
57,226 |
124,824 |
ฐานความผิดพิเศษ |
17,430 |
30,557 |
44,133 |
คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย |
568,630 |
728,044 |
1,163,868 |
รวมความผิด 4 ฐานทั่วประเทศ |
653,973 |
833,900 |
1,371,008 |
ที่มา : กลุ่มงานวิเคราะห์และประเมินผล กองแผนงานอาชญากรรม สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แสดงให้เห็นว่าปัญหาอาชญากรรมเป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งต่อตัวประชาชนในสังคมโดยตรงในฐานะผู้เสียหาย และโดยรวมคือสังคมเกิดความไม่สงบ ไม่ปลอดภัย เกิดความวุ่นวาย ก่อให้เกิดความกลัวอาชญากรรมในสังคมนั้นๆ รวมถึงสังคมไทย
ดังนั้น กระบวนการยุติธรรมจึงเป็นกลไกสำคัญของรัฐในการสร้างความเป็นธรรมและความสงบเรียบร้อยของสังคม นอกจากนี้ยังเป็นกฎเกณฑ์เป็นกระบวนการที่นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายและเป็นกระบวนการที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาหรือจำเลย นั่นหมายความว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นกระบวนการที่มีความเชื่อมต่อกันโดยมีขั้นตอนตามที่กฎหมายกําหนดไว้ ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมอยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงาน โดยมีภารกิจและหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นการป้องกันอาชญากรรม การสอบสวน ฟ้องร้อง การพิจารณาคดี หรือแม้กระทั่งการแก้ไขบําบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด แต่ทั้งหมดนี้มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม
คณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เล็งเห็นถึงความสำคัญของหลักสูตรอาชญาวิทยาและงานยุติธรรมว่า มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากการเรียนในหลักสูตรนี้นักศึกษาสามารถนำองค์ความรู้ในรูปแบบสหวิทยาการที่อาศัยศาสตร์จากหลายสาขาทั้งในด้านสังคมวิทยา จิตวิทยา กฎหมาย การเมืองการปกครอง เศรษฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ และการสื่อสารมวลชน มาอธิบายอาชญากรรมและพฤติกรรมของอาชญากร เพื่อใช้ในการควบคุม ป้องกัน บำบัดและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่มีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น โดยถ่ายทอดความรู้บนพื้นฐานของแนวคิด ฐานคติ ทฤษฎี ผ่านระบบกระบวนการคิด วิเคราะห์ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อน ผลักดันให้สังคมได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ อันจะนำไปสู่การกำหนดทิศทาง วิธีการ และมาตรการของการแก้ไขปัญหาผ่านกระบวนการยุติธรรมกระแสหลักหรือกระบวนการยุติธรรมแบบฟ้องร้อง และกระบวนการยุติธรรมทางเลือก เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมบนพื้นฐานของคุณธรรม และจริยธรรม อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เป็นประโยชน์ต่อบุคลากร หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน
ภายหลังสำเร็จการศึกษาผู้เรียนจะสามารถนำองค์ความรู้ไปปฏิบัติงานกับหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรม เช่น กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม เป็นต้น นอกจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมแล้ว นักศึกษายังสามารถไปปฏิบัติงานกับภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะหน่วยงานภาคเอกชนทุกๆ องค์กรจะมีหน่วยงานด้านการวางแผนระบบความปลอดภัย ซึ่งนักศึกษาสามารถนำองค์ความรู้ด้านอาชญาวิทยาไปวางแผนการป้องกันอาชญากรรม และหรือวางแผนกระบวนการสืบสวน สอบสวน เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ ตลอดจนนักศึกษาสามารถเสนอความคิดเห็นประกอบนโยบายและแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีทัศนคติที่ดีต่องานยุติธรรม อีกทั้งมีทักษะการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด การเยียวยาเหยื่ออาชญากรรม ผ่านกระบวนการวิเคราะห์หลากหลายมิติรอบด้าน
05 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้ชม 45 ครั้ง